ตัวอย่างของพระโสดาบันนั้น ในชีวิตของกระผม/อาตมภาพเจอมามาก ไม่ว่าจะเป็นในพระไตรปิฎก หรือว่าประสบพบเห็นชนิดที่ภาษาวัยรุ่นเรียกว่า "ตัวเป็น ๆ" แต่สำหรับพระสกทาคามีแล้วยังไม่เคยเจอ "ตัวเป็น ๆ" ถ้าเป็นในพระไตรปิฎกน่าจะมีอยู่แค่คู่เดียวเท่านั้น ที่ทรงความเป็นพระสกทาคามีได้ชัดเจนที่สุด ก็คือคู่ของปิบผลิมาณพและนางภัททกาปิลานี ซึ่งภายหลังก็คือพระมหากัสสปเถระกับภัททกาปิลานีภิกษุณี
เนื่องเพราะว่าต่างคนต่างไม่ปรารถนาการครองเรือน แปลว่ากำลังใจใกล้ความเป็นพระอนาคามี ซึ่งจะมีก็แค่พระสกทาคามีเท่านั้น แต่ว่าโดนพ่อแม่บังคับให้แต่งงาน เมื่อถึงเวลาอยู่ร่วมหอกัน ก็เอาพวงมาลัยคั่นกลางไว้ โดยที่เป็นสัญญาณบอกกันว่า ถ้าพวงมาลัยด้านไหนเหี่ยวเฉาก่อน แสดงว่าบุคคลผู้นั้นเกิดไฟราคะขึ้นมา เป็นอย่างนั้นอยู่หลายปี
เราจะได้เห็นชัดว่าคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่ในตำราระบุไว้ของพระสกทาคามีก็คือ สามารถทำให้ราคะและโทสะเบาบางลง ถ้าไม่ได้กำลังใจระดับนั้น ย่อมไม่สามารถที่จะหักห้ามใจได้ เพราะว่าผู้หญิงกับผู้ชายเป็นเครื่องดึงดูดกันเองโดยอัตโนมัติ ต่อให้อยู่คนละประเทศ คนละจังหวัด ก็ยังตะเกียกตะกายไปหากัน อย่าว่าแต่อยู่ในห้องเดียวกันแบบนั้นเลย..!
เมื่อถึงเวลาพ่อแม่ตายแล้ว ทั้งสองคนก็แจกจ่ายทรัพย์สมบัติให้กับผู้อื่น แล้วถือเพศเป็นนักบวช เป็นการบวชเอง โดยใช้คำว่า บวชอุทิศพระอรหันต์ในโลก แปลว่ามีพระอรหันต์อยู่ที่ไหนก็ตาม ทั้งสองคนตั้งใจบวชเพื่อพระอรหันต์ทั้งหลายเหล่านั้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-11-2023 เมื่อ 03:17
|