ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 21-11-2023, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,406 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกเรื่องหนึ่งที่จะพูดในวันนี้ อาจจะทำให้เกินเวลาไปบ้าง ก็คือมีผู้ที่หวังดีส่งคลิปวีดีโอเข้ามาในกลุ่มไลน์อีกแล้ว เป็นเรื่องของบุคคลผู้รู้เจ้าเดิม ที่กล่าวว่า "การบวชหน้าไฟ นอกจากไม่ได้บุญแล้ว คนบวชยังต้องตกนรก" อีกต่างหาก กระผม/อาตมภาพพอเห็นเข้า ก็ได้แต่ถอนใจว่า "เวรกรรมของกูแท้ ๆ..!" ไม่ทราบเหมือนกันว่าต้องไปถามท่านอาจารย์ไพศาล แสนไชยหรือเปล่า ? ว่าไปสร้างเวรสร้างกรรมอะไรกับบุคคลผู้นี้ กระผม/อาตมภาพจึงต้องมาแก้ไขทิฏฐิให้แก่ญาติโยมทั้งหลายอยู่ตลอดเวลา

เนื่องเพราะว่าการบวชนั้น ไม่ว่าจะเป็นการบวชพระหน้าไฟ หรือว่าการบวชเณรหน้าไฟ ถ้าเป็นการบวชพระ ทันทีที่พระคู่สวดประกาศว่า "อุปะสัมปันโน สังเฆนะ" ก็คือได้รับการยกขึ้นเป็นอุปสัมบันร่วมกับหมู่สงฆ์แล้วนะ ตรงนั้นผู้บวชได้อานิสงส์ในการบวชเต็ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ไปแล้ว

ถ้าหากว่าเป็นการบวชเณร ทันทีที่รับไตรสรณคมน์เสร็จ ถึง "ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ" บุญของการบวชสามเณรก็ได้เต็ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ทันที ไม่ต้องรอให้ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า สามเณรต้องยึดถือกฎเกณฑ์กติกา คือศีล ๑๐ ข้อ ตลอดจนกระทั่งสามเณรสิกขาอย่างไรบ้าง ?

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ การบวชจึงได้อานิสงส์ทันทีที่บวชเสร็จ ส่วนในเรื่องของการอยู่ต่อนั่นต่างหากที่จะกำไรหรือว่าขาดทุน ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายอยู่ต่อแล้วตั้งใจปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา อานิสงส์ที่พึงได้ก็บวกมากขึ้นไปทุกที แต่ถ้าหากว่าไปทำผิดทำพลาด ละเมิดพระธรรมวินัย ก็จะโดนลบไปเรื่อย จนกระทั่งบางทีก็เป็นหนี้สินล้นพ้นตัว มีสิทธิ์ที่จะลงนรกได้อย่างที่ผู้รู้ท่านนั้นกล่าวมา..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น โบราณาจารย์จึงแนะนำในเรื่องของการบวชหน้าไฟ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่บุคคลที่ตายไปแล้ว ถ้าหากว่าท่านอยู่ในเขตที่อนุโมทนาได้ เมื่อได้รับบุญรับกุศลแล้ว ก็เข้าสู่สุคติภพไปเลย ไม่ต้องเสียเวลาไปผ่านตำหนักพระยายมให้ตัดสิน ยกเว้นท่านที่กรรมหนัก ไม่ผ่านตำหนักพระยายม ลงไปสู่อบายภูมิเลย ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้

ดังนั้น..กระผม/อาตมภาพจะไม่เสียเวลาไปถกเถียงอะไร เพราะไม่ใช่ผู้รู้ แค่ว่าศึกษามาจากพระไตรปิฎกบ้าง อรรถกถาบ้าง ฎีกาบ้าง อนุฎีกาบ้าง ตลอดจนกระทั่งครูบาอาจารย์ คือหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง เมตตาสั่งสอนเอาไว้บ้าง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่รู้มาในพระไตรปิฎกก็ดี ที่ครูบาอาจารย์สอนสั่งมาก็ตาม
เมื่อไม่ตรงกับทิฏฐิของผู้รู้ท่านนั้น จึงต้องมาแก้ไข เพื่อให้ท่านทั้งหลายจะได้เป็นสัมมาทิฏฐิ ถ้าไปเชื่อถือแล้วยึดตามกัน กลายเป็นมิจฉาทิฏฐิต่างหาก ที่อาจจะนำลงสู่อบายภูมิได้ เพราะว่าคิดผิด พูดผิด ทำผิด ไปจากพระธรรมวินัยนั่นเอง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2023 เมื่อ 01:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา