เรื่องพวกนี้บางทีรับรู้เอาไว้ก็เป็นส่วนของความรู้รอบตัว สมณศักดิ์เปรียบเหมือน "ยศช้างขุนนางพระ" ถ้าหากว่าเราไม่ไปหวั่นไหวกับโลกธรรมที่เข้ามา ก็เหมือนกับตั้งยศให้กับช้าง ต่อให้ช้างเป็นคุณหลวง คุณพระ หรือว่าเจ้าคุณ ก็ยังคงกินอ้อยกินหญ้าเหมือนเดิม
คำว่าขุนนางพระก็ลักษณะเดียวกัน คือได้รับพระราชทานตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรบ้าง เป็นพระราชาคณะบ้าง หลายต่อหลายรูปท่านก็คงเหมือนเดิมทุกอย่าง ปฏิปทาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย เพราะถือว่าเป็นเรื่องภายนอก ใครมาแสดงความยินดี ท่านก็ดีด้วย ใครไม่แสดงความยินดี ท่านก็เฉย ๆ
จึงเป็นเรื่องที่พวกเราต้องรักษาใจกันเอาเอง เวลาที่โลกธรรมเข้ามา ขึ้นอยู่กับว่าถ้าหวั่นไหวมากก็ทำใจยากหน่อย ถ้าหวั่นไหวน้อยก็จัดการง่ายหน่อย ส่วนที่ไม่หวั่นไหวได้เลย จะเป็นเรื่องที่วิเศษที่สุด แต่ก็หาได้ยากอย่างยิ่งเหมือนกัน
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-12-2023 เมื่อ 00:43
|