ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 15-12-2023, 01:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,254 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..เมื่อได้ยินญาติโยมที่พยายามจะเสาะหาพระอรหันต์ โดยเฉพาะไปนำเอาคำเล่าลือมากล่าวว่า บุคคลนั้นเป็นพระอรหันต์ บุคคลนี้เป็นพระอรหันต์ กระผม/อาตมภาพจึงมีความหนักใจมาก เพราะว่าปัจจุบันนี้ "พระอรหันต์ลูกศิษย์ตั้ง" หรือ "พระอรหันต์ญาติโยมตั้ง" นั้น มีจำนวนมากต่อมากด้วยกัน

บุคคลที่กล่าวว่าครูบาอาจารย์ท่านนั้นเป็นพระอรหันต์ ครูบาอาจารย์ท่านนี้เป็นพระอรหันต์ ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นฆราวาสปุถุชน บางทีศีล ๕ ก็ยังมีไม่ครบเลย พูดง่าย ๆ ว่า คุณสมบัติความเป็นชาวบ้านชั้นดียังไม่มี แล้วจะไปรู้คุณสมบัติของกัลยาณชน หรือว่าพระอริยชนได้อย่างไร ?

เหมือนกับตัวเองเรียนหนังสือยังไม่ทันจบชั้น ป.๖ แต่เที่ยวไประบุว่าครูบาอาจารย์ท่านนั้นจบปริญญาเอก ครูบาอาจารย์ท่านนี้จบปริญญาเอก โอกาสที่ผิดพลาดก็มีถึง ๙๙.๙๙ เปอร์เซ็นต์..! แล้วถ้าหากว่าท่านมั่นใจไปบอกกล่าวต่อ เกิดมีผู้คนเชื่อถือตาม ก็จะกลายเป็นการพาผู้คนให้หลงผิดตามไปด้วยเป็นจำนวนมาก

ถ้าครูบาอาจารย์ท่านนั้นเป็นพระอรหันต์จริง ก็เท่ากับว่าท่านเสมอตัว ก็คือไปแล้วได้รับฟังคำสอนต่าง ๆ จากครูบาอาจารย์เหล่านั้น นำมาก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเองได้ แต่ถ้าครูบาอาจารย์เหล่านั้นเป็นเพียงพระอรหันต์ที่ลูกศิษย์ตั้ง โดยที่ลูกศิษย์เองก็อย่างเหมือนกับคนตาบอด เมื่อไปขี่ม้าตาบอด คือครูบาอาจารย์ก็ไม่ได้บรรลุธรรมอย่างแท้จริง ก็ย่อมมีแต่จะตกเหว ตกห้วย บาดเจ็บล้มตายไปเสียเปล่า ๆ..!

จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายพึงจักสังวรว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนให้เราปฏิบัติในไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ และปัญญา ให้ทุกคนทบทวนศีลของตนเองทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ พยายามทำสมาธิภาวนา จนอย่างน้อยเกิดปฐมฌานละเอียดขึ้นแก่ตน เพื่อที่จะได้ใช้ประโยชน์ในการก่อให้เกิดปัญญา จนสามารถที่จะตัดกิเลสได้

และท้ายที่สุด พยายามพิจารณาให้เห็นความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความไม่มีอะไรให้ยึดถือมั่นหมายเป็นตัวตนได้ ทั้งตนเอง ทั้งผู้อื่น ทั้งสัตว์อื่น ตลอดจนกระทั่งทั้งโลกนี้ แล้วถอนความยินดี อยากมีอยากได้ในร่างกายนี้ ถอนความยินดีในการอยากเกิดมามีร่างกายเช่นนี้ ถอนความยินดีในการต้องการเกิดมาในโลกนี้ ถ้าหากว่าท่านสามารถทำได้ดังนี้ ต่อให้ไม่ไปเสาะหาครูบาอาจารย์ที่ไหน ท่านก็ถือเอาพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นครูบาอาจารย์ได้อย่างแท้จริง

แต่ต่อให้ท่านไปเสาะหาแล้วพบพระอรหันต์อย่างที่ต้องการ แต่ว่าเป็นการไปตามการถือมงคลตื่นข่าว ก็คือไปเพื่อให้ได้ชื่อว่าตนเองก็ไปกราบพระอรหันต์รูปนั้นมาแล้ว ไม่ได้นำเอาพระธรรมคำสอนที่ท่านมอบไว้ให้มาปฏิบัติจนเกิดประโยชน์แก่ตน ท่านก็เสียโอกาสในการได้พบพระอรหันต์ไปเปล่า ๆ แล้วถ้าไปพบพระอรหันต์ลูกศิษย์ตั้ง ซึ่งเปรียบเสมือนกับม้าตาบอด ถ้าหากว่านำทางให้กับท่านที่เป็นคนตาบอด ก็อาจจะหลงเวียนว่ายตายเกิด ทุกข์ทรมานอยู่ในวัฏสงสารนี้ไปอีกนานแสนนาน..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2023 เมื่อ 02:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา