ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 22-12-2023, 22:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,143 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จะว่าไปแล้ว เรื่องนี้ทางวัดท่าขนุนของเราก็ไม่ได้เคร่งครัด ผู้มาปฏิบัติธรรมจะใส่เสื้อผ้าสีสันแบบไหนก็ได้ แต่ขอให้เป็นชุดสุภาพ ไม่จำเป็นต้องเป็นชุดขาว แต่ว่าระยะหลัง ๆ ด้วยความที่เขาทำตาม ๆ กัน ก็เลยใส่ชุดขาวกันเสียเป็นส่วนใหญ่ ในเมื่อของเราเองไม่ได้เคร่งครัด จะไปว่ากล่าวบุคคลอื่น หรือว่าวัดอื่นก็ไม่ได้

จึงได้แต่ศึกษาเรียนรู้เอาไว้ว่า ประเทศศรีลังกามีประชากรแค่ ๗๓ เปอร์เซ็นต์ที่นับถือศาสนาพุทธ แต่ว่าเขามีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ มีกระทรวงพระพุทธศาสนา มีพระเป็นรัฐมนตรี มีพระเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขาทำได้เพราะว่าความเป็นพุทธนั้นเข้มแข็งมาก

งานนี้ที่ไปก็เห็นชัดตา ก็คือเด็กอิสลามจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงไปโรงเรียนวันพระ ก็ต้องแต่งชุดขาวทั้งหมด ต่อให้คุณสวมผ้าคลุมฮิญาบ ก็ต้องเป็นผ้าคลุมสีขาว พูดง่าย ๆ ว่าถ้าอยากเรียนในโรงเรียนนี้ ก็จงทำตามเสียดี ๆ..! ดังนั้น..ถ้าหากว่าบ้านเราเมืองเรามีความเคร่งครัดและเข้มแข็งในพระพุทธศาสนา คาดว่าพระพุทธศาสนาของเราจะเจริญรุ่งเรืองมากกว่านี้

ทุกวันนี้องค์กรทางพระพุทธศาสนา ตั้งแต่กระทรวง รัฐมนตรีที่รับผิดชอบ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ไม่ได้ทำหน้าที่ของอุบาสก อุบาสิกา ผู้มาอำนวยความสะดวกให้แก่วัดวาอาราม แต่เผลอมาในลักษณะของเจ้านาย ไม่นานก็จะมีหนังสือคำสั่งลงมาว่า วัดต้องทำแบบนั้น วัดต้องทำแบบนี้ โดยที่บางอย่างเป็นการจัดงานที่ต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก นอกจากไม่สนับสนุนงบประมาณแล้ว ยังบังคับว่าคุณต้องทำด้วย ก็คือหลงประเด็นว่าตนเองมีหน้าที่อะไร กลายเป็นคิดว่าเป็นผู้บังคับบัญชาพระภิกษุสามเณร ถึงเวลาชี้นิ้วสั่งได้..!

ในเรื่องของคดีความต่าง ๆ เกี่ยวกับพระ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนั้น ควรที่จะเข้าถึงให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะระงับเรื่องไม่ให้ใหญ่โต หรือกระจายกว้างขวางออกไป โดยเฉพาะต้องแม่นต่อพระธรรมวินัย อย่างเช่นว่าการดื่มน้ำเมาต้องอาบัติปาจิตตีย์ ถ้าจะว่าไปแล้ว คือเป็นอาบัติที่สามารถแสดงคืนในท่ามกลางสงฆ์ได้ โดยให้สัจจะปฏิญาณเอาไว้ว่า "ต่อไปนี้ข้าพเจ้าจะไม่คิดเช่นนี้อีก ต่อไปนี้ ข้าพเจ้าจะไม่พูดเช่นนี้อีก ต่อไปนี้ข้าพเจ้าจะไม่ทำเช่นนี้อีก"

หรือถ้าจะเป็นการลงโทษทางโลก ก็ต้องมอบหมายให้เจ้าอาวาสหรือว่าพระอุปัชฌาย์ อันดับแรกเลยก็ตำหนิโทษ ถ้ายังไม่เลิกรา ครั้งต่อไปก็ภาคทัณฑ์ ถ้ายังเลิกไม่ได้อีก แล้วครั้งต่อไปค่อยให้สึกหาลาเพศไป แต่ปัจจุบันนี้เรื่องถ้าหากว่าถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือว่าถึงมือตำรวจ มักจะจับสึกไปเลย โดยไม่ได้ดูความหนักเบาของพระวินัย ซึ่งเป็นเครื่องปฏิบัติของพระ ไปเอากฎหมายบ้านเมืองและจารีตประเพณีเข้ามาเป็นใหญ่แทน จึงสร้างความวุ่นวายแก่คณะสงฆ์มากกว่าความสงบเรียบร้อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 23-12-2023 เมื่อ 18:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา