ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 15-01-2024, 00:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,168 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จุดมุ่งหมายของเราในการบวชตอนแรก อย่างที่วันนี้นาคได้กล่าวก็คือ นิพพานัสสะ สัจฉิกะระณัตถายะ เอตัง กาสาวัง คะเหตวา ข้าพเจ้าขอรับเอาผ้ากาสาวพัสตร์นี้มา เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน ไม่ใช่รับผ้ากาสาวพัสตร์นี้มา เพื่อสร้างความร่ำรวยรุ่งเรืองให้กับตนเอง

ถ้าท่านทั้งหลายศึกษารายละเอียดในพระวินัยปิฎก เกี่ยวกับพระฉัพพัคคีย์ ก็คือคณะพระภิกษุ ๖ รูป ที่สร้างปัญหาใหญ่ และแทบจะเป็นต้นกำเนิดศีลสารพัดข้อ จะว่าไปแล้วทั้ง ๖ รูปนี้ มีการวางแผนการบวชที่สุดยอดมาก เพราะว่าท่านหาข้อมูลก่อนว่าบ้านนี้เมืองนี้มีประชากรเท่าไร มีบ้านกี่หลัง ถ้าหากว่าบิณฑบาต ชาวบ้านใส่บาตรสัก ๑๐ เปอร์เซ็นต์ เราจะได้รับภัตตาหารเท่าไร ? หรือว่าจะได้รับจีวรเท่าไร ? เป็นต้น

เมื่อวางแผนกันแล้วก็บวช จากนั้นแยกย้ายกันไปอยู่ตามเมืองต่าง ๆ เหล่านั้น อย่างเช่นเมืองสาวัตถี แล้วก็ไปสร้างสารพัดวีรกรรม เพราะเจตนาในการบวชก็คือ มาเพื่อหาความสุขความเจริญให้กับตนเองในด้านโลก ๆ ไม่ได้ตั้งใจบวชเพื่อละกิเลส โดยเฉพาะเป็นต้นบัญญัติอาบัติหนัก ๆ หลายต่อหลายข้อด้วยกัน

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราจะเห็นว่าบุคคลประเภทนี้แม้ในสมัยพุทธกาลก็มีแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วจึงต้องบัญญัติพระวินัยขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์ก็คือเพื่อข่มบุคคลที่ควรข่ม เพื่อยกย่องบุคคลที่ควรยกย่อง โดยเฉพาะบุคคลที่ควรข่ม พระองค์ท่านใช้คำว่า ทุมฺมงฺกุ แปลตามศัพท์ว่า ผู้เก้อยาก ภาษาไทยปัจจุบันเขาเรียกว่าไอ้พวกหน้าด้าน..!

อย่างเมื่อไม่กี่วันนี้มีพระเอารถเข้าไปเติมน้ำมันในปั๊ม แล้วก็ไปเที่ยวขอเงินญาติโยมที่มาเติมน้ำมัน ว่าให้ช่วยจ่ายค่าน้ำมันให้ด้วย พอญาติโยมไม่จ่าย ก็ไปด่าเขาเสีย ๆ หาย ๆ นี่คือไอ้พวกหน้าด้าน อาศัยพระศาสนาหากิน ไม่ได้คำนึงถึงสมณสารูปของตนเลย..!

ดังนั้น..ตัวอย่างทั้งหลายเหล่านี้ เราจะเห็นอยู่เป็นปกติ ให้เอามาสอนใจตัวเราเอง และตอกย้ำไม่ให้เราลืมว่า เราบวชมาเพื่อ ลด ละ กิเลสของเราให้เหลือน้อยที่สุด ถ้าสามารถตัดขาดไปได้เลยยิ่งดี แม้ว่าไม่สามารถเข้าถึงมรรคเข้าถึงผลได้ อย่างน้อยก็ชำระใจของเราให้เหลือกิเลสให้น้อยที่สุด เพื่อที่ญาติโยมบวชเรามาแล้ว สามารถที่จะไหว้ได้เต็มมือ ไม่ใช่ถึงเวลาเดินออกบิณฑบาต แล้วโยมยกขันข้าวหนี ถ้าลักษณะนั้นก็ต้องพิจารณาตนเองแล้ว ว่าเราสร้างวีรกรรมอะไรไว้บ้าง..!?

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๔ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2024 เมื่อ 02:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา