ครั้นได้เวลาทางเจ้าหน้าที่ก็มานิมนต์ให้ขึ้นอาสนะ ซึ่งจัดเอาไว้รอบอุโบสถ เนื่องเพราะว่าอุโบสถวัดกำแพงนั้น ภายในมีวัตถุมงคลเกือบจะเต็มพื้นที่ มีเพียงสถานที่จุดเทียนชัย เทียนพุทธาภิเษก และอาสนะของพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลางเท่านั้น
ทางด้านนอกทั้งหมด กระผม/อาตมภาพที่เห็นก็มีท่านเจ้าคุณชำนาญ (พระมงคลวโรปการ) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เจ้าอาวาสวัดชินวราราม ท่านเจ้าคุณอริยชาติ (พระภาวนารัตนญาณ วิ.) เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นต้น
โดยเฉพาะบรรดาครูบาอาจารย์ที่ได้รับนิมนต์มาครั้งนี้ มีที่ติดภารกิจจึงมาตั้งแต่ช่วงเช้าก็หลายรูป พอนั่งลงปุ๊บ ทิดเฟิร์ส (นายบัณฑิต เอี่ยมตระกูล) ก็บอกว่า "หลวงพ่อช่วยระวังให้ผมด้วยนะครับ วันนี้ผมขออาศัยด้วย" กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่หัวเราะในใจ เนื่องเพราะว่างานแบบนี้ มักจะมีพระเกจิอาจารย์ "ร้อนวิชา" คอย "ลองของ" เสมอ วันนี้กระผม/อาตมภาพก็โดนอีกเช่นกัน..!
เพียงแต่ว่าเรื่องพวกนี้ กระผม/อาตมภาพไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ เพราะว่าได้รับบทเรียนมามากต่อมากด้วยกันแล้วว่า ถ้าเราตอบโต้ไป อีกฝ่ายหนึ่งสู้ไม่ได้ ก็จะไปหาบุคคลที่เก่งกว่ามาเล่นงานเราต่อ หรือถ้าหาบุคคลที่เก่งกว่าไม่ได้ ก็จะหาบุคคลประเภทเดียวกัน แต่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเล่นงานเรา ไม่ให้ได้พักได้ผ่อน ท้ายที่สุด เราก็ต้องพลาดให้เขาจนได้..!
กระผม/อาตมภาพเคยเจอมวยหมู่ ๓๐ ต่อ ๑ มาแล้ว เขาผลัดกัน ๕ ผลัด ๆ ละ ๖ รูป/คน ช่วยกันทำ แม้ว่ากระผม/อาตมภาพสามารถที่จะเล่นให้กระจายไปทั้งกลุ่มก็ได้ แต่ถ้าทำเช่นนั้น ก็คงต้องเดือดร้อนต่อไปเรื่อย ๆ จึงใช้วิธีทำไม่รู้ไม่ชี้ ส่งมาเท่าไรก็เก็บหายหมด จนกระทั่งอีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่าไม่มีการตอบโต้ น่าจะเสียชีวิตไปแล้ว ถึงได้เลิกกระทำ แล้วหลังจากนั้นกระผม/อาตมภาพก็ใช้วิธีนี้ตามเคย ก็คือก่อนที่จะเข้างาน ก็อาราธนาบารมีพระท่านสงเคราะห์ไว้ก่อนแล้ว..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-01-2024 เมื่อ 01:01
|