ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 24-01-2024, 00:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,214 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พระองค์ท่านจึงได้รำลึกถึงปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ที่เคยดูแลรับใช้อยู่ ตั้งใจเสด็จไปโปรด เมื่อแสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตรแล้ว โกณฑัญญพราหมณ์ได้ดวงตาเห็นธรรม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงโปรดให้อุปสมบท ด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา

คราวนี้ในการอุปสมบทครั้งนั้น วันนี้กระผม/อาตมภาพถามบรรดานิสิตว่า พระอัญญาโกณฑัญญะอายุโดยประมาณเท่าไร ? ปรากฏว่าช่วงบรรยาย นอกจากเหนื่อยมากแล้ว ยังมีอาการไข้ด้วย จึงสับสนกับชีวิตไปหน่อย..!

ถ้าเรามั่นใจว่าพระอัญญาโกณฑัญญะ ตอนเข้าไปทำนายลักษณะ อายุ ๑๖ ปีเป็นอย่างต่ำ เนื่องเพราะว่าถ้าจบไตรเพทตอนอายุ ๑๖ ปี กว่าที่ชื่อเสียงจะปรากฏทั่วแผ่นดิน จนกระทั่งพระเจ้าแผ่นดินเรียกหา อาจจะอีกหลายปี แต่เราถือเสียว่า ๑๖ ปีเป็นขั้นต่ำ เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ตอนอายุ ๒๙ พรรษา แสวงหาโมกขธรรมอยู่อีก ๖ พรรษา รวมแล้ว ๓๕ ปี จึงได้ไปเทศน์โปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ก็ต้องเอา ๑๖ + ๓๕ เราจะได้อายุของท่านโกณฑัญญะโดยประมาณว่า ตอนที่ท่านบวชคืออายุอย่างต่ำ ๕๑ ปีแล้ว

คราวนี้ในการที่องค์สมเด็จพระประทีปแก้ว เสด็จไปโปรดปัญจวัคคีย์จนสำเร็จแล้ว ยังมีบุคคลอยู่สองท่านที่ควรจะกล่าวถึงไว้ด้วย บุคคลแรกก็คืออุปกาชีวก อุปกาชีวกนั้นได้พบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขณะที่เสด็จไปยังป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ก็คือพอเริ่มเดินทางก็ได้พบกันเลย เห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีฉัพพรรณรังสี มีพระฉวีผุดผ่อง มีพุทธลักษณะเป็นเลิศ จึงได้ถามว่า "ดูก่อน..ท่านผู้เจริญ ท่านชอบใจในธรรมของใครหรือ ?" พูดง่าย ๆ ก็คือว่าปฏิบัติตามแนวไหน ถึงได้ออกมาดูดีอย่างนี้

องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า "เราเป็นสยัมภู" คือเป็นผู้รู้ด้วยตนเอง ตรงจุดนี้ไม่ว่าจะอรรถกถา หรือแม้กระทั่งฎีกา อนุฏีกาก็ตาม ได้อธิบายความที่อุปกาชีวก สั่นศีรษะ แลบลิ้น แล้วก็จากไป ว่าอุปกาชีวกไม่เชื่อ..!

แต่คราวนี้ถ้าท่านทั้งหลายสังเกต โดยเฉพาะเมื่อไปอินเดีย ไปศรีลังกา จะเห็นว่าถ้าทางโน้นสั่นศีรษะแปลว่าใช่ แล้วการแลบลิ้นนั้นเป็นการแสดงความเคารพอย่างหนึ่งของคนโบราณ แม้ในปัจจุบันนี้ก็ยังมีอยู่ อย่างเช่นว่าชนชาวทิเบต หรือว่าบรรดาชาวเผ่าเมารีในประเทศออสเตรเลีย ก็แปลว่าอุปกาชีวกน่าจะเชื่อ และแสดงความเคารพสูงสุดตามแบบที่ตนเองยึดถือและทำตามกันมา ก็คือสั่นศีรษะแปลว่าเชื่อ และการแลบลิ้นคือการแสดงความเคารพ

เนื่องเพราะว่าหลังจากที่อุปกาชีวกไปแต่งงานมีครอบครัว แล้วไม่ประสบความสำเร็จ ได้ย้อนกลับไปหาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รับการบวช แล้วบรรลุมรรคผลเช่นกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-01-2024 เมื่อ 02:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา