ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 29-01-2024, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,681
ได้ให้อนุโมทนา: 151,934
ได้รับอนุโมทนา 4,417,134 ครั้ง ใน 34,271 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บรรดาญาติโยมทั้งหลายส่วนหนึ่งที่ไปวัดท่าขนุน โดยเฉพาะบรรดา "มเหสักโข" ประกอบไปด้วยยศศักดิ์ยิ่งใหญ่ ฐานะร่ำรวย ไปแล้วมักจะไม่ค่อยชอบใจ เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพให้ความสำคัญกับพระก่อน เมื่อถึงเวลาเตรียมสถานที่ทุกอย่างให้พระโดยพร้อมสมบูรณ์ สำหรับญาติโยมก็นั่งแบกับดินไป ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่มาจากที่ไหนก็ตาม ก็พบการต้อนรับในระดับเดียวกันทั้งหมด..!

ความจริงก็ควรจะเป็นเช่นนั้น แต่ว่าญาติโยมส่วนหนึ่งคิดว่าทางวัดจำเป็นจะต้องง้อ เนื่องจากว่าตนเองมาเป็นประธานทำบุญ ตนเองมาเป็นประธานเปิดงาน ตนเองเป็น "ขาใหญ่" ที่คอยให้การทะนุบำรุงวัด โดยที่ลืมไปว่า พระภิกษุสงฆ์นั้นอยู่ในสถานะของปูชนียบุคคล ควรที่จะให้ความเคารพนับถือ ควรที่จะอำนวยความสะดวกให้มากกว่า แล้วพระภิกษุสงฆ์ของเราก็พลอยหลงประเด็นไปด้วย ลืมไปว่าตนเองมีศีลที่ต้องรักษา คือ "ห้ามประทุษร้ายตระกูลด้วยการประจบคฤหัสถ์" แต่ว่าในปัจจุบันนี้ ร้อยละ ๙๐ เป็นอย่างน้อย ล้วนแล้วแต่ประจบผู้มีเงิน ประจบผู้มีอำนาจทั้งสิ้น..!

แม้กระทั่งกระผม/อาตมภาพเอง ก็ได้รับการขอร้องจากเพื่อนพระสังฆาธิการว่า "อาจารย์เล็ก..ช่วยแนะนำลูกศิษย์รวย ๆ ให้ผมบ้าง วัดวาอารามของผมจะได้เจริญขึ้นเหมือนกับวัดท่าขนุน" กระผม/อาตมภาพต้องเรียนท่านไปว่า "วัดท่าขนุนทำงานอะไรไม่เคยมีเจ้าภาพใหญ่ หากแต่ว่าญาติโยมทำบุญกันมา คนละ ๕ บาท ๑๐ บาท ๒๐ บาท ๕๐ บาท ๑๐๐ บาท เมื่อสะสมรวมกันแล้วก็เพียงพอที่จะใช้งาน ไม่เคยประจบคนรวย ไม่เคยเอาใจคนรวย ดังนั้น..จึงไม่มีคนรวยที่จะแนะนำให้ท่านทั้งหลายได้..!"

โดยเฉพาะการทำบุญกับวัดท่าขนุนนั้น ถ้ามาผิดท่าผิดทางก็โดนไล่กลับไปเลย ไม่ว่าเงินจำนวนนั้นจะมากเท่าไรก็ตาม ตัวอย่างก็คือมีโยมท่านหนึ่ง ปวารณาขอเป็นเจ้าภาพสร้างหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอกหน้าวัดท่าขนุน โดยที่กระผม/อาตมภาพมีทุนอยู่แล้ว ๑,๗๐๐,๐๐๐ บาท จากทั้งหมด ๓,๕๐๐,๐๐๐ บาท ท่านปวารณาขอถวาย ๑,๘๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อให้พอดีกับเงินที่ต้องการใช้ในงานนั้น

กระผม/อาตมภาพบอกว่า
"ยังไม่รับ ให้เวลากลับไปคิดก่อน ๑ อาทิตย์ ถ้าหากว่าโยมไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก้อนนี้ หรือว่าถวายเงินก้อนนี้ให้กับอาตมภาพแล้ว โยมไม่เดือดร้อน คนรอบข้างไม่เดือดร้อน ถ้าอย่างนั้นถึงจะรับเอาไว้"

ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ บางทีก็เป็นการมากเรื่องโดยใช่เหตุ แต่กระผม/อาตมภาพไม่ใช่บุคคลที่รับเงินจากญาติโยมแบบหน้าชื่นตาบาน ขณะที่โยมอาจจะต้องกลับไปกินบะหมี่สำเร็จรูปกันทั้งเดือน..! แต่ยังโชคดีที่ว่า โยมท่านนั้นเมื่อผ่านไป ๗ วันแล้ว ติดต่อกลับมาใหม่ บอกว่า "พิจารณาถี่ถ้วนแล้วว่า เงินก้อนนี้สามารถที่จะสละออกเพื่อการทำบุญได้ โดยที่ตนเองและคนรอบข้างไม่เดือดร้อน" กระผม/อาตมภาพถึงได้อนุโมทนาและรับเงินส่วนนั้นเอาไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2024 เมื่อ 03:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา