พระพุทธเจ้าใช้เวลา ๑๑ วัน เดินทางออกจาสถานที่ตรัสรู้ คือพุทธคยา ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ไปยังป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี ปัจจุบันนี้ใครไปอินเดีย นั่งรถไปครับ ๕ ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ระยะทางแค่ ๒๓๐ กิโลเมตร พระพุทธเจ้าท่านเดินไม่ถึงครึ่งวันก็ถึงแน่นอนครับ เพราะว่า ๑๒๐ โยชน์นี่เกือบ ๒,๐๐๐ กิโลเมตร แล้วทำไมระยะทาง ๒๓๐ กิโลเมตรถึงต้องเดินตั้ง ๑๑ วัน ? ท่านทั้งหลายสงสัยบ้างไหมครับ ?
กระผม/อาตมภาพถามประเด็นแรกก่อน เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะประสูติ พราหมณ์ ๑๐๘ ท่านที่เป็นสุดยอดฝีมือในยุคนั้น เข้าไปทำนายลักษณะ พราหมณ์ ๑๐๗ ท่านทำนายว่า "เจ้าชายสิทธัตถะนี้ ถ้าหากว่าครองบ้านครองเมืองจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิปกครองโลก ถ้าออกบวช จะได้เป็นศาสดาเอกของโลก"
มีท่านเดียวคือพราหมณ์ที่หนุ่มที่สุด คือ โกณฑัญญพราหมณ์ อายุ ๑๖ ปี จบไตรเพทแล้ว ถ้าเป็นสมัยนี้ก็จบด็อกเตอร์ตั้งแต่อายุ ๑๖ ครับ ฟันธงฉับเลย "สิทธัตถราชกุมารนี้ จักเสด็จออกบรรพชา และบรรลุเป็นศาสดาเอกของโลก..!"
บรรดาพราหมณ์ทั้งหลายนี่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวเมืองเดียวกันนะครับ มาจากทั้งชมพูทวีปเลย ข่าวนี้จึงกระจายไปทั่ว ชมพูทวีปตอนนั้นประกอบด้วยแคว้นเล็ก ๆ ใหญ่ ๆ มากมากนับไม่ถ้วนนะครับ แต่ว่ามี "มหาชนบท" หรือถ้าเรียกในสมัยนี้ว่าประเทศอยู่ ๑๖ แคว้น มีใครท่องได้ไหมครับ ? รุ่นผมโดนบังคับท่องเลย อังคะ มคธะ กาสี โกสละ วัชชี มัลละ เจตี ฯลฯ ไล่ไปเรื่อย รุ่นของท่านไม่โดนบังคับให้ "ท่องแบบ" อย่างนี้เลยจำไม่ได้ ถามหลวงพ่อสมจิตร (พระครูสุจิณบุญกาญจน์) ดู ท่านก็โดนบังคับให้ "ท่องแบบ" มาแล้ว
เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกบวช ต้องออกจากแคว้นกบิลพัสดุ์ กบิลพัสดุ์เป็นเมืองขึ้นของแคว้นโกสล ของพระเจ้าปเสนทิโกสล แคว้นนี้แคว้นใหญ่ที่สุด ผู้ปกครองแคว้นอื่น ๆ เขาเรียกว่ากษัตริย์บ้าง เรียกว่าราชาบ้าง แต่พระเจ้าปเสนทิโกสล เขาเรียกว่ามหาราชา คือมหาราชอยู่องค์เดียวเลยครับ ถ้าเปรียบสมัยนี้ก็ประมาณประเทศอเมริกาครับ
แคว้นใหญ่อีกแคว้นหนึ่งก็คือแคว้นมคธของพระเจ้าพิมพิสาร ถ้าเปรียบสมัยนี้ กระผม/อาตมภาพตีเสียว่าเป็นประเทศรัสเซียก็แล้วกัน เพราะว่ารุ่นของกระผม/อาตมภาพ เขาบังคับดูแผนที่ประเทศอินเดียโบราณ ต้องวาดให้ได้ว่ามหาชนบท ๑๖ แคว้นอยู่ที่ไหนกันบ้าง แคว้นกาสีเผลอเมื่อไรก็จะโดนแคว้นโกสลกลืนไปด้วย แล้วแคว้นอังคะเผลอเมื่อไรก็จะโดนแคว้นมคธผนวกเป็นประเทศเดียวกันไปด้วย..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-01-2024 เมื่อ 03:04
|