ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 01-02-2024, 00:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,899 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลักการทั้งหลายเหล่านี้ ถ้ายกเอาสัมมัปปธาน ๔ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นมา ก็จะเห็นว่าประกอบไปด้วย ความเพียรในการละความชั่ว ความเพียรในการระมัดระวังไม่ให้ความชั่วเข้ามาในใจของเราอีก ความเพียรในการสร้างความดี ความเพียรในการรักษาความดีนั้นให้เจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป

คราวนี้เราท่านทั้งหลายที่มาทำความดี เราสามารถรักษาความดีของเราให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นไป หรือว่าพลาดท่าเสียทีหลุดจากความดีไปทุกครั้ง ? เรื่องพวกนี้เราต้องรู้จักพินิจพิจารณา ถือคติที่ว่า "ทำถูกได้กำไร ทำผิดได้บทเรียน" ไม่เสียเวลาไปอยู่กับอารมณ์เสียดายในความดีที่เคยทำ หากแต่ว่าลงมือทำใหม่ทันทีที่พลาดไป ถ้าสามารถวางกำลังใจลักษณะนี้ได้ ความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมของเราก็จะปรากฏขึ้น

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ บางทีท่านยังมีประสบการณ์น้อยอยู่ ตัวกระผม/อาตมภาพเองเคยรักษาอารมณ์ภาวนาไว้ ทั้งหลับทั้งตื่น ทั้งยืนทั้งนั่ง มีสติรู้ตัวอยู่ตลอด ๒ เดือนกว่า เกือบ ๓ เดือน กำลังคิดว่าถ้าเราสามารถรักษากำลังใจแบบนี้ไว้ได้ ขึ้นชื่อว่ามรรคผลก็ไม่น่าจะเกินความสามารถของตน พอคิดได้ไม่นาน กำลังใจพลาดตอนไหนก็ไม่รู้ ? มารู้ตัวตอน รัก โลภ โกรธ หลง มาแบบฟ้าถล่มดินทลาย กว่าที่จะค้ำ กว่าที่จะยัน กว่าที่จะแก้ไขให้เข้าที่ได้ ก็เสียเวลาไปเป็นเดือน..!

พอรักษากำลังใจได้ ไปกราบเรียนพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านบอกว่า "ข้าก็เคยเป็น ทั้งที่เคยทรงสมาบัติ ๘ คล่องตัวเต็มที่แล้วนั่นแหละ มารู้ตัวอีกทีเหลือแค่อุปจารสมาธิเท่านั้น..!" ท่านบอกว่า "สิ่งที่แกพบก็เหมือนกับสิ่งที่ข้าพบ ก็คือบ้าน ซึ่งมีเสา ๘ ต้นช่วยกันค้ำ อยู่ ๆ เหลือเสาแค่ครึ่งต้น บ้านทั้งหลังจะถล่มลงมาทับตาย..!" เพราะฉะนั้น..
ครูบาอาจารย์ท่านก็เคยพลาดแบบที่พวกเราพลาด แต่พลาดแล้วท่านเพียรพยายามแก้ไข โดยเฉพาะไม่ละทิ้งในความเพียรทั้งหลายเหล่านั้น ขณะที่พวกเราเอ้อระเหยลอยชาย แบบถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง..!

เราท่านทั้งหลายได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังธรรมและน้อมนำมาปฏิบัติ เป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่งนัก จงอย่าใช้โอกาสเปลือง..! เพราะว่าถ้าเราพลาดไปในชาตินี้ ก็เท่ากับว่าเสียชาติเกิด..! ก็คือต้องไปเวียนว่ายตายเกิด ทุกข์ทนอีกนานเท่าไรก็ไม่รู้ ? กว่าที่จะมีโอกาสได้มาปฏิบัติธรรมอย่างนี้อีก จึงต้องรู้จักกลัวการเกิดใหม่เสียบ้าง ถ้าเราไม่รู้จักเข็ด ไม่รู้จักกลัว ก็ไม่พยายามที่จะหลบหนี ถ้าเป็นไปในลักษณะนี้ ก็แปลว่าเรายังต้องทุกข์กันไปอีกนาน..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๓๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-02-2024 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา