แต่ว่าท่านทั้งหลายไม่ได้เห็นตรงนี้ เพราะว่าพวกเราส่วนใหญ่แล้วก็มาด้วยจิตใจที่เสียสละ ตั้งใจทำประโยชน์เพื่อพระพุทธศาสนาและส่วนรวม โดยถือว่าปัจจัยญาติโยมทั้งหลายก็ทำบุญมา ควรที่จะช่วยให้เป็นการบุญการกุศลอย่างเต็มที่ จึงเป็นเรื่องที่ "กลืนไม่เข้าคายไม่ออก"
ที่ท่านทั้งหลายสรุปว่าพวกกระผม/อาตมภาพเป็น "พระรวย" ถ้าหากจะให้บอกก็คือพวกเรานั้นรวยบุญ หรือว่ารวยอริยทรัพย์ ส่วนทรัพย์ทางโลกนั้น ครูบาอาจารย์ท่านสอนให้ใช้อย่าให้ข้ามปี พูดง่าย ๆ ว่ามีเท่าไร เทให้หมดไปเลย..!
เมื่อได้มาเป็นกรรมการดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ กระผม/อาตมภาพที่คิดว่าตนเองเป็นผู้เสียสละแล้ว กลับมาเจอผู้อื่นที่เสียสละมากกว่าเสียอีก จึงรู้สึกดีใจว่า อย่างน้อย พระพุทธศาสนาของเรายังมีหวัง การขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ เพื่อประชาชนยังพอเป็นไปได้ ก็เพราะว่ามีบรรดาพระเถระผู้เสียสละเป็นจำนวนมากนี่เอง
เมื่อทำการปิดประชุมแล้ว กระผม/อาตมภาพได้ขออนุญาตลา เดินทางกลับที่พัก เพราะว่ายังต้องใช้เวลาอีกนาน จึงบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนบนรถตามเคย ถ้าหากว่าสุ้มเสียงไม่ดีก็ต้องขออภัย เนื่องจากว่าห้องประชุมนั้นค่อนข้างจะเย็น กระผม/อาตมภาพเป็นคนที่แพ้เครื่องปรับอากาศ เสียงหายไปบ้าง ท่านทั้งหลายก็ต้องทนฟังเอา
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-02-2024 เมื่อ 13:53
|