ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 16-02-2024, 22:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,325 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปร่วมพิธีเปิดโครงการอบรมบาลีก่อนสอบ ของคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) โดยมีพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นประธานในพิธีเปิด

ในเรื่องของการเรียนบาลีนั้น ต้องบอกว่าเป็นเรื่องของคนมีบุญ เพราะว่าเท่ากับถูกบังคับให้ทำธุระในพระพุทธศาสนา ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแบ่งออกเป็น ๒ ประการ คือ ๑) คันถธุระ ก็คือการศึกษาพระไตรปิฎก ปัจจุบันนี้ได้แก่การเรียนบาลีนี่เอง ๒) วิปัสสนาธุระ คือการเจริญพระกรรมฐาน ไม่ว่าจะเป็นสมถกรรมฐาน หรือว่าวิปัสสนากรรมฐาน

การเรียนบาลีนั้น ถ้าหากว่าตามอย่างครูบาอาจารย์ของพวกเรา ก็คือหลวงปู่ปาน วัดบางนมโคก็ดี หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงก็ตาม ท่านเรียนเพื่อให้แปลบาลีได้ถูกต้อง จะได้สอบทวนว่าตำราที่เอามาศึกษาและปฏิบัติในวิปัสสนาธุระนั้น ถูกต้องตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ในพระไตรปิฎกหรือไม่ ?

คราวนี้จากการที่กระผม/อาตมภาพเคยเป็นนักเรียนบาลีมาด้วยตนเอง จึงกล้าพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า "ท่านใดที่สอบบาลีได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค สามารถที่จะเรียนปริญญาเอกจบได้อย่างน้อย ๓ ใบ..!" เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าบาลีนั้นยากมาก ต้องใช้คำว่า "ยากมากถึงมากที่สุด" บุคคลที่เรียนบาลีจึงต้องมีความขยันหมั่นเพียรเป็นพิเศษ

โบราณเขาบอกว่าผู้ที่จะเรียนบาลีแล้วประสบความสำเร็จนั้น ประการที่ ๑ ต้องมีความขยัน ตัวอย่างที่กระผม/อาตมภาพจะยกให้ทุกท่านได้ทราบก็คือลูกศิษย์ท่านหนึ่ง ปัจจุบันนี้ก็คือพระครูกาญจนปริยัติคุณ (ชุมพร ปิยธมฺโม ป.ธ.๓) เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประชุมชนาราม หรือว่าวัดท่ามะขาม ท่านเรียนบาลีที่สำนักวัดสามพระยาวรวิหาร เรียนตอนอายุมากแล้ว จึงต้องใช้ความขยันเข้าสู้ เพราะว่าบรรดาสามเณรนักเรียนบาลีนั้น ล้วนแล้วแต่สมองกำลังแจ่มใส อยู่ในช่วงวัยรุ่น พร้อมที่จะซึมซับเอาเนื้อหาบทเรียนได้ง่าย

ในเมื่อพระครูกาญจนปริยัติคุณท่านเอาความขยันเข้าสู้ จึงกลายเป็นที่รักของครูบาอาจารย์อย่างยิ่ง เมื่อสอบได้เปรียญธรรม ๓ ประโยค ก็กลายเป็นที่กล่าวขวัญกันไปทั่ว โดยเฉพาะท่านเจ้าคุณไพบูลย์ - พระราชปริยัติโมลี (ไพบูลย์ วิปุโล ป.ธ .๙) ซึ่งภายหลังได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม ราชวรวิหาร ซึ่งเรียนปริญญาโทรุ่นเดียวกับกระผม/อาตมภาพ ท่านกล่าวถึงเสมอว่า "มหาชุมพรเป็นสุดยอดของความขยัน ผมสอนบาลีมาเป็น ๑๐ ปี เจอลูกศิษย์ที่ขยันขนาดนี้แค่ไม่กี่รูปเท่านั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2024 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา