ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 21-02-2024, 00:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,151 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในช่วงที่ท่านเป็นเจ้าคณะจังหวัดอยู่ บรรดาพระภิกษุสามเณรที่นอกรีต นอกลู่ นอกทาง ไม่มีใครที่อยากจะเข้าไปในเขตนครปฐม เพราะรู้เลยว่าถ้าหากว่าถึงมือหลวงปู่ชุ้นเมื่อไร ท่านเองมีกฎหมายอยู่แค่ ๒ มาตรา ก็คือมาตรา ๕ บน หรือว่ามาตรา ๕ ล่าง ทันตบเป็นตบ ทันเตะเป็นเตะ..!

กระผม/อาตมภาพยังเรียนถามท่านว่า "หลวงปู่..อายุก็มากแล้ว ไปตบไปเตะมัน เกิดมันสู้ขึ้นมาจะทำอย่างไร ?" ท่านบอกว่า "อันดับแรก ข้าไม่ได้ไปคนเดียว อันดับที่สอง คนชั่วกำลังใจมันสู้ข้าไม่ได้อยู่แล้ว ในเมื่อกำลังใจมันสู้ไม่ได้ โดนผัวะเดียวร่วงลงไป มันก็หมดกำลังใจที่จะสู้ สารภาพแต่โดยดีทุกคน"

ตรงจุดนี้กระผม/อาตมภาพก็เชื่อ เนื่องเพราะว่าพวกเรากล่าวขานกันว่าหลวงปู่ชุ้นท่านมี "นะหน้าเสือ" ความจริงตรงนี้ก็น่าจะเป็นประเภทคาถา "นะจังงัง" หรือ "ตวาดป่าหิมพานต์" เหล่านั้น เพียงแต่ว่าหลวงปู่ชุ้นท่านมีฉายาว่าเสือแห่งวังตะกู ก็เลยกลายเป็น "นะหน้าเสือ" ไปโดยปริยาย ในเมื่อกำลังใจของท่าน นอกจากจะปฏิบัติกรรมฐานอย่างเคร่งครัดแล้ว ความแม่นยำในเรื่องวินัยและกฎหมายต่าง ๆ ของท่านยังเป็นที่เลื่องลือ ความเข้มงวดของท่านเป็นที่รู้กันไปหมด จึงทำให้คนอื่นนั้นไม่มีทางเลยที่จะมีกำลังใจสู้ท่านได้

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงกลายเป็นเรื่อง "ปาปมุต" ก็คือเรื่องนี้หลวงปู่ชุ้น ท่านสามารถใช้มาตราทั้ง ๕ ล่าง และ ๕ บนได้ แต่คนอื่นใช้ไม่ได้ รับประกันว่าใช้เมื่อไร ก็มี "ดราม่า" ออกโซเชียลเมื่อนั้น แต่สมัยหลวงปู่ชุ้นท่านใช้จนกระทั่งทุกคน ทั้งพระภิกษุสามเณรและฆราวาส เห็นเป็นเรื่องปกติ ประมาณว่า "ถ้ามึงเข้ามาทำเลวในเขตนครปฐม ก็สมควรแล้วที่จะโดนอย่างนี้..!"

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ในปัจจุบันคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ของเราจึงค่อนข้างที่จะสงบเรียบร้อย และกลายเป็น "ขี้ปาก" ของบรรดาเจ้าคณะภาคอื่น ๆ ที่สนิทสนมกับหลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม ถึงขนาดสะกิดกันถามว่า "ภาค ๑๔ มึงจะอยู่เฉย ๆ บ้างไม่ได้หรือ ? พวกข้าเหนื่อยว่ะ..!" แต่ว่าเรื่องพวกนี้ ก็ต้องให้พระผู้ใหญ่ท่านคุยกันไป

กระผม/อาตมภาพเห็นสิ่งที่เจ้านายท่านทำและวางนโยบายเอาไว้ เมื่อปรากฏผลออกมาอย่างเด่นชัด ทั้ง ๆ ที่เราฮือฮากันทั้งภาค แต่ว่าทางโซเชียลอื่นไม่มีเลย ก็แปลว่าเป็นสิ่งที่ท่านสั่งให้ทำนั้น เกิดผลดีแก่คณะสงฆ์อย่างแน่นอน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-02-2024 เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา