การที่พระอริยเจ้าทั้ง ๓ องค์ บ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบข้อซักถามของท่านเจ้ากรมฯ เสริม ทำให้หลวงปู่สิม พุทธาจาโร หลวงปู่บุดดา ถาวโร หลวงปู่คำแสน แห่งวัดป่าดอนมูล ต่างหัวเราะสนุกและสนับสนุนให้ ครูบาธรรมชัย ช่วยเฉลยข้อสงสัยให้แก่ท่านเจ้ากรมฯ
ครูบาธรรมชัย ทราบว่าหลวงปู่หลวงพ่อทุกองค์ ให้เกียรติยกย่องในอำนาจอภิญญาสมาบัติ จึงถวายนมัสการหลวงปู่หลวงพ่อทุกองค์ด้วยความเคารพ แล้วแจกแจงให้ท่านเจ้ากรมฯ ฟังว่า
"อันนกผู้มีสีสันขนสวยงามลักษณะแปลกประหลาด หาใช่นกจากสถานที่ลึกลับแห่งใดในโลกหล้า เป็นฝูงนกวิเศษมาจากพิภพอื่น คือมาจากโลกทิพย์ซึ่งเป็นโลกที่ใครจะมองดูด้วยตาเปล่าไม่อาจแลเห็น และแท้ที่จริงก็คือเหล่าเทพยดาจำแลงปลอมแปลงร่างมานั่นเอง
เจตนาอันเป็นมหากุศลของปวงเทพยดา ก็เพื่อสำแดงสาธุการอนุโมทนา ชื่นชมยินดีในพิธีกรรมอันเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนี้ เสียงอันไพเราะเพราะพริ้งฟังรื่นหูของนก คือเสียงนกพูดจากันเป็นภาษาธรรมะ และขอร่วมทำพิธีเทิดพระมหาบารมีแห่งองค์พระบรมสารีริกธาตุพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยร่วมสวดพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ที่มีแต่ในโลกทิพย์ เป็นการสรรเสริญพระพุทธคุณนั่นเอง"
คำชี้แจงของครูบาธรรมชัย หลวงปู่หลวงพ่อทุกองค์ในที่นั้น ต่างพยักหน้าสนับสนุน อันแสดงว่าครูบาธรรมชัยมีโสตทิพย์รู้ภาษานก และยังล่วงรู้ไปอีกชั้นหนึ่งด้วยว่าเขาเหล่านั้นมาจากไหน มาเพื่อทำอะไร
เมื่อพิธีบวงสรวงเสร็จสิ้นลง ฝูงนกลึกลับจากมิติอื่นจึงโผผินบินจากกิ่งไม้ จับเป็นหมู่ร่อนวนเวียนไปรอบองค์พระธาตุเจดีย์จอมกิตติ ๓ รอบ แล้วผละออกเหินขึ้นสู่ท้องฟ้า ทะลุหมู่เมฆลับหายไปจากสายตาของผู้คนเรือนพันซึ่งชุมนุมกันอยู่บริเวณนั้น
ขอจบเรื่องราวที่เกี่ยวกับหลวงปู่ครูบาธรรมชัยแต่เพียงเท่านี้
|