วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ เมื่อวานนี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศว่าได้เข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว แต่คราวนี้ฤดูร้อนตามพระวินัยของเราก็คือวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๔ จะตกอยู่ราว ๆ วันที่ ๒๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ก็แปลว่า เรายังมีอุโบสถที่จะต้องลงในส่วนของฤดูหนาว ทั้ง ๆ ที่อากาศร้อนแทบตาย..!
จะว่าไปแล้วเรื่องของฤดูกาล บางประเทศก็กำหนดเอาไว้ถี่มาก อย่างของประเทศจีน กำหนดเอาไว้ ๒๔ ช่วงด้วยกัน ถ้าหากว่าเป็นทางตะวันตก พวกยุโรป อเมริกา เขาก็จะมี ๔ ฤดู ก็คือฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว แล้วก็ฤดูใบไม้ผลิ ส่วนบ้านเราถือตามแบบวัฒนธรรมอินเดีย ก็มีฤดูกาลหลักแค่ ๓ ฤดูกาล คือฤดูร้อน ฤดูฝน แล้วก็ฤดูหนาว แต่บางคนเขาก็บอกว่ามีแต่ฤดูร้อนกับร้อนฉิบหาย..!
ที่มากล่าวถึงตรงนี้กันก็เพราะว่า พวกเราส่วนหนึ่ง จะใช้คำว่า "ส่วนหนึ่ง" ก็น่าจะไม่ถูกต้อง ก็คือส่วนใหญ่ไปฝืนธรรมชาติกัน อย่างเช่นว่าพอร้อน เราก็เข้าไปในห้องปรับอากาศ หรือว่าเปิดพัดลม หนาวมาก ๆ ก็ยังมีเครื่องทำความอุ่น ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สภาพร่างกายของเราจึงไม่ได้ปรับตัวตามสภาพอากาศ ถึงเวลาเจอสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงเร็วเข้า บางทีร่างกายก็รับไม่ไหว
คราวนี้สภาพร่างกายกับสภาพจิตใจก็เหมือนกัน ก็คือส่วนใหญ่แล้วเราไปฝืนธรรมชาติ เอาแค่เรื่องกินอย่างเดียวก็แย่แล้ว ถ้าพวกเรารู้จักสังเกต จะเห็นว่าบรรดาสัตว์ต่าง ๆ เขาอยู่กันตามธรรมชาติ กินแค่มื้อเดียว มื้อหน้าจะมีกินหรือเปล่า เขาไม่ได้ใส่ใจ สัตว์ก็เลยจะมีทุกข์น้อยกว่าเรา ก็คือทุกข์น้อยตรงที่ไม่ต้องแสวงหามา เพื่อสะสมเอาไว้สำหรับโอกาสต่อไป
แม้ว่าจะมีสัตว์บางชนิด อย่างเช่นกระรอก ที่สะสมอาหารไว้สำหรับฤดูหนาว แล้วก็มักจะโดนคนขโมยไปกิน..! แต่ก็ต้องนับว่าเป็นส่วนน้อย เพราะว่าส่วนใหญ่เขาอยู่กับธรรมชาติ
คราวนี้มาเกี่ยวเนื่องอะไรกับพวกเรา ? ก็เพราะว่าความจริงแล้วองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเราเกี่ยวกับเรื่องของธรรมชาติ เราจะเห็นว่าสรรพสิ่งในธรรมชาตินั้น หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้ มีแต่ความทุกข์ และท้ายที่สุด ยึดถือมั่นหมายไม่ได้ จะต้องเสื่อมสลายตายพังจากกันไป แม้กระทั่งตัวตน ก็ไม่สามารถยึดเป็นตัวเราของเราได้
แล้วมนุษย์เราทำอย่างไร ? ก็ฝืนธรรมชาติ ที่ไม่เที่ยง ก็พยายามจะเที่ยงให้ได้ ผมหงอกก็ย้อม ฟันหลุดฟันหัก ก็ใส่ฟันปลอม เนื้อหนังเหี่ยวย่น ก็ไปดึงหน้า ไปร้อยไหม ไปฉีดโบท็อกซ์ ไอ้ที่หนักกว่านั้นก็คือไป "ทุบ" หน้าใหม่..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-02-2024 เมื่อ 02:24
|