ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 25-02-2024, 00:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,232 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ความจริงปีนี้เราคาดว่าจำนวนบุคคลที่ร่วมขบวนแห่ชาติพันธุ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมอญ เป็นกะเหรี่ยง เป็นม้ง เป็นเย้า เป็นเนปาลี เป็นเมียนมาร์ เป็นไทยอีสาน และเป็นลาวนั้น น่าจะอยู่ที่ประมาณ ๔๐๐ คน จึงได้เตรียมอาหารไว้สำหรับ ๕๐๐ คน

แต่ปรากฏว่าพี่น้องมอญมาเกินจำนวนมากยังไม่พอ พี่น้องกะเหรี่ยงที่เห็นว่าในปีก่อน ๆ นั้นในขบวนแห่ตนมีคนน้อยกว่าพี่น้องมอญ ปีนี้จึงใช้วิธีจัดเต็ม นำเอาพี่น้องกะเหรี่ยงทั้งจากบ้านห้วยเขย่งและทั้งสังขละบุรีมาร่วมงานด้วย รวมแล้ว ๑,๐๐๐ กว่าคน ทำเอากระผม/อาตมภาพออกอาการหน้ามืด เพราะว่าอาหารที่เตรียมไว้ทำท่าจะไม่พอ ดีที่ได้รับความเมตตาจากท่านนายกปาล์ม (นายศราวุธ ศรีทันดร) นายกเทศมนตรีตำบลทองผาภูมิ ที่บริการข้าวเหนียวไก่ทอดแบบไม่อั้น

ขณะเดียวกันนางลำแพน สุภรศรี ประธานคณะกรรมการทอผ้าพื้นเมืองบ้านทุ่งนางครวญ อดีตกำนันตำบลชะแล อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านทุ่งนางครวญ ก็ยังนำเอาส้มตำไทยอีสานมาบรรเลงให้แบบไม่อั้น ซึ่งยังโชคดีที่อดีตผู้ใหญ่บ้านลำแพนเชื่อที่กระผม/อาตมภาพบอก จึงได้ทำการซอยมะละกอเตรียมไว้หลายกะละมัง เมื่อบรรดาผู้หิวโหยทั้งหลายมาถึง จึงได้เร่งตำและปรุงให้เรียบร้อย เมื่อได้ส้มตำบวกกับข้าวเหนียวไก่ทอดเข้าไป ทุกคนก็ทำท่ามีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง

จนกระทั่งถึงพิธีเปิด ซึ่งควบคุมการแสดงต่าง ๆ แสง สี เสียง โดยครูตูน (นางวารุณี พรมฝ้าย) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านไร่ป้า อดีตครูนาฏศิลป์ โรงเรียนบ้านอูล่อง ซึ่งคุณครูได้จัดชุดการแสดง "สื่อรักสงครามโลก" ที่เป็นเรื่องจริงเกี่ยวกับในช่วงสงครามโลก ที่ทหารญี่ปุ่นนำเชลยศึกมาสร้างทางรถไฟบริเวณบ้านท่าขนุน แล้วคุณหมอเกอิซัง ซึ่งเป็นทหารญี่ปุ่นได้ช่วยชาวบ้านและทหารทุกคนด้วยจรรยาบรรณแพทย์ ทำให้เป็นที่นิยมของชาวบ้านเป็นอย่างมาก จึงเกิดความรักกับนางสาวทองคู่ ชาวบ้านปรังกาสี

เมื่อสงครามจบลง ความรักที่กำลังเบ่งบานก็กลายเป็นเรื่องเศร้า เพราะว่าคุณหมอเกอิซังต้องเดินทางกลับญี่ปุ่น จึงได้มอบผ้าเช็ดหน้าและแหวนแทนตัวเอาไว้ให้กับนางสาวทองคู่ ชาวบ้านปรังกาสี ซึ่งทางด้านนางสาวทองคู่ ก็เก็บของที่ระลึกนี้เอาไว้เป็นอย่างดียิ่ง และได้มอบให้กับทางป้าตุ่น (นางสาวบุญสนอง บุญยงค์) คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันถึงเรื่องราวความรักไร้พรมแดนในช่วงสงครามโลก

โดยเฉพาะนางสาวทองคู่นั้น ปัจจุบันมีอายุ ๙๖ ปีแล้ว ยังแข็งแรงดีทุกประการ แต่ไม่ได้ข่าวคราวจากคุณหมอเกอิซังอีกเลย จึงไม่ทราบเหมือนกันว่าคุณหมอยังอยู่ดีมีสุข หรือว่าล้มหายตายจากไปแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-02-2024 เมื่อ 05:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา