ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 04-03-2024, 00:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,416,033 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพชอบใจข้าวปลาอาหารของวันนี้มาก เพราะว่าส่วนใหญ่เป็นผัก และที่แน่ ๆ ก็คือใช้ตะเกียบเสียด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว คนเวียดนามก็ใช้ตะเกียบ คนไทยที่มาถึงยุคแรก ๆ เรียกหาช้อนไม่ได้ ทำเอาบรรดามัคคุเทศก์ท่องเที่ยวซึ่งรับทัวร์ไทย ท้ายสุดก็ต้องซื้อช้อนสั้นติดตัวเอาไว้คนละ ๒๐๐ - ๓๐๐ อัน เมื่อถึงเวลาก็ส่งให้นักท่องเที่ยวไทยที่ใช้ตะเกียบไม่เป็น แต่กระผม/อาตมภาพนั้นถือว่าเป็นลูกเจ๊กเต็มขั้น จึงกินด้วยตะเกียบคล่องตัวมาก

เมื่ออิ่มเรียบร้อยแล้ว
กระผม/อาตมภาพลงมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ใส่มาเป็นชุดกันหนาว เนื่องเพราะว่าอากาศแถวนี้ ๑๗ องศาเซลเซียสเท่านั้น ครั้นถึงเวลา พวกเราก็เดินทางต่อ ตรงเข้าเมืองฮานอย เข้าถึงตัวเมืองปุ๊บ รถก็ติดปั๊บ แต่ว่าเป็นที่อัศจรรย์มาก เนื่องเพราะว่าเลนที่รถของเราอยู่นั้น มักจะเป็นเลนว่างพอดี ก็คือจะมีช่วงว่างอยู่ด้านหน้าประมาณ ๒ - ๓ คันรถให้เราวิ่งไปได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องชะลอความเร็ว ยังอดนึกกราบขอบพระคุณบรรดาเจ้าที่เจ้าทาง หลวงปู่หลวงพ่อ ที่อนุเคราะห์สงเคราะห์ในครั้งนี้ด้วย

แล้วเราก็มาขึ้นทางด่วนอีกช่วงหนึ่ง ตรงไปยังเมืองนิงบินห์ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญอีกเมืองหนึ่ง เมืองนี้เป็นเมืองแห่งภูเขาและสายน้ำ โดยเฉพาะมีภูเขาหินปูนเยอะมาก ประเทศเวียดนามมีโรงงานปูนซีเมนต์ทั้งหมด ๘ แห่ง อยู่ที่เมืองนิงบินห์นี้ถึง ๖ แห่งด้วยกัน..! แล้วขณะเดียวกันบริษัทรถยนต์เกาหลีคือฮุนได ก็มาตั้งฐานผลิตที่นี่ด้วย

พวกเราไปถึงท่าเรือตามก๊อก พวกเรามาถึงก็ตอนเย็นมากแล้ว จึงกลายเป็นชุดสุดท้ายที่จะลงเรือพายไปล่องลำน้ำมังกรเหลือง (Hoang Long) กันในวันนี้ เจ้าหน้าที่จึงจัดให้พวกเราลงเรือลำละ ๒ คน ทั้ง ๆ ที่โดยปกติแล้วเขาให้ลง ๔ คน เพราะว่าบรรดาผู้ที่พายเรือนั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นคุณย่า คุณยาย คุณป้า คุณอา คุณลุง คุณตา คุณปู่ ซึ่งอยู่ว่าง ไม่มีงานทำ ก็มาพายเรือรับนักท่องเที่ยว บรรดาลูกหลานส่วนใหญ่ก็ไปเข้าอยู่ในโรงงานต่าง ๆ ที่หาเงินได้ง่ายกว่านี้

พวกเราล่องเรือไปชมภูเขาสวย ๆ ที่เขาลือกันว่าเป็น "กุ้ยหลินแห่งเวียดนาม" และลอดถ้ำลอดไปอีกฝั่งหนึ่ง ตลอดสองข้างทางก็มีบรรดาสุสานต่าง ๆ เต็มไปหมด เพราะว่าแถวนี้ฮวงจุ้ยก็อยู่ในลักษณะหลังอิงเขา หน้าหันเข้าหาน้ำทั้งสิ้น

เมื่อพวกเราล่องเรือกลับมาถึงแล้ว ทางด้านมัคคุเทศก์คืออาหลัน ได้นำคณะไปรับประทานอาหารเย็น กระผม/อาตมภาพเองไม่ได้เตรียมการที่จะบันทึกเสียง แต่ไม่ได้รับประทานอาหารเย็นกับเขา มองซ้ายมองขวา ท้ายที่สุดก็เห็นห้องเก็บเบียร์ ซึ่งอยู่ทางด้านหลังร้านอาหาร พอที่จะสงบเงียบอยู่บ้าง จึงแอบมุดเข้ามาเพื่อที่จะบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนอยู่ในขณะนี้..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-03-2024 เมื่อ 01:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา