ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 07-03-2024, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,995
ได้รับอนุโมทนา 4,416,474 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ท่านทั้งหลายก็เห็นว่ากระผม/อาตมภาพงานมากแค่ไหน แต่ว่าเรื่องงานส่วนเรื่องงาน เรื่องที่อยากจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ มีผู้ส่งคลิปมาให้ ที่มีพระมหารูปหนึ่งตอบคำถามที่ว่า "ถ้าพระอุปัชฌาย์ต้องอาบัติปาราชิกแล้วไปบวชพระ ผู้ที่ได้รับการบวชนั้นจะสำเร็จเป็นพระหรือไม่ ?"

ท่านตอบว่า "มีทั้งที่สำเร็จเป็นพระและไม่สำเร็จเป็นพระ" โดยอธิบายว่า ถ้าหากว่าบวชด้วยคณะสงฆ์ปัญจวรรคในปัจจันตประเทศ ก็คืออย่างต่ำ ๕ รูป หรือว่าบวชด้วยคณะสงฆ์ทสวรรค ในมัชฌิมประเทศ คืออย่างต่ำ ๑๐ รูป ถ้ามีจำนวนเกิน อย่างเช่นว่าบวชในปัจจันตประเทศ คือพวกชายขอบ แล้วมีพระสงฆ์อยู่ในคณะปูรกะเกินกว่าจำนวน ๕ รูป ถือว่าบวชได้สำเร็จ

หรือว่าถ้าบวชในมัชฌิมประเทศ คือส่วนกลางที่มีความเจริญ แล้วมีพระสงฆ์เข้าร่วมบวชเกิน ๑๐ รูป ถือว่าบวชแล้วสำเร็จเป็นสงฆ์ได้ แต่ถ้าหากว่าไม่เกินนั้น ตัดพระอุปัชฌาย์ออกไปแล้ว เหลือ ๙ รูปบ้าง ๔ รูปบ้าง ก็คือไม่ครบจำนวนตามที่พระพุทธเจ้ากำหนดเอาไว้ ก็ถือว่าบวชแล้วไม่เป็นพระ ฟังดูแล้วก็มีหลักการดี แต่กระผม/อาตมภาพเห็นว่าไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน

ท่านอ้างว่าการบวชนั้นจะสำเร็จด้วยวัตถุสมบัติ ก็คือตัวผู้บวชนั้น เกิดเป็นมนุษย์ เป็นบุรุษ อายุได้อย่างน้อย ๒๐ ปี มีอวัยวะครบ ๓๒ เหล่านี้เป็นต้น ปริสสมบัติ คณะสงฆ์ครบถ้วนตามที่พระพุทธเจ้ากำหนดเอาไว้

สีมาสมบัติ บวชอยู่ในเขตสีมา ที่มีกำหนดอย่างชัดเจน เป็นต้น ซึ่งหลักการพวกนี้พระสงฆ์ของเรารู้อยู่แล้ว ส่วนในเรื่องของกรรมวาจาสมบัตินั้นเป็นเรื่องของคู่สวด ท่านบอกว่าถ้าสมบัติทั้งหมดนี้ครบถ้วน ก็สำเร็จเป็นพระได้ แต่ท่านลืมไปหรือเปล่าว่า อันดับแรก ถ้าหากว่าพระอุปัชฌาย์ขาดความเป็นพระไปแล้ว พูดง่าย ๆ ว่าแม่พิมพ์เสีย แล้วจะพิมพ์วัตถุออกมาให้ได้ดีนั้น เป็นไปไม่ได้

ประการต่อไปก็คือการบวชนั้น บวชโดยญัตติจตุตถกรรม คือสงฆ์สวดประกาศ ๑ ครั้ง สวดอนุสาวนาอีก ๓ ครั้ง รวมเป็น ๔ ครั้ง ในท่ามกลางสงฆ์นั้น บุคคลที่อยู่ในสังฆกรรมนั้นต้องเป็นอุปสัมบันเท่านั้น ยกเว้นผู้เข้าบวช เพราะว่าเขาไปขอให้คณะสงฆ์ยกตนเองขึ้นเป็นอุปสัมบัน คือผู้มีศีลเสมอกัน แต่พระอุปัชฌาย์ต้องอาบัติปาราชิก ขาดความเป็นพระ ถือว่าเป็นอนุปสัมบัน ไปอยู่ท่ามกลางคณะสงฆ์ ก็ทำให้สังฆกรรมนั้นวิบัติหมด สังฆกรรมย่อมไม่อาจสำเร็จประโยชน์ได้

ประการต่อไปก็คือ ทำไมไม่ยกเอามหาปเทส ๔ ขึ้นมา เพราะว่าเป็นเครื่องตัดสินพระธรรมวินัยที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามอบให้ไว้ ในเมื่อ
เรื่องที่ไม่สมควร พิจารณาแล้วว่าไม่สมควร เรื่องนั้นย่อมไม่สมควร โดยเฉพาะพระอุปัชฌาย์ตามรากศัพท์แปลว่า "ผู้เพ่งดู" ก็คือดูให้สังฆกรรมนั้นเป็นไปโดยถูกต้องสมบูรณ์ตามพระธรรมวินัย ไม่ผิดพลาด แล้วตนเองเป็นผู้บกพร่องเสียเอง ยังจะไปทำหน้าที่พระอุปัชฌาย์ได้อย่างไร ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-03-2024 เมื่อ 03:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา