การที่ท่านทั้งหลายถามว่าตะบองพลำนั้นมีจริงหรือไม่ ? กระผม/อาตมภาพขอแยกออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเป็นตำนาน ก็คือมีคำบอกเล่าว่า มีบุคคลเข้าไปในหมู่บ้านที่ปักษ์ใต้สมัยก่อนโน้น แล้วก็เจอเปลือกตะขาบ ซึ่งโตประมาณกระด้งฝัดข้าวท่อนหนึ่ง พูดง่าย ๆ ก็คือ มีข้อเดียวเท่านั้น ที่เขาเอาแขวนเอาไว้ปากทางเข้าหมู่บ้าน นัยว่าเมื่อแขวนไว้แล้ว สัตว์ร้ายอื่น ๆ จะไม่กล้าเข้ามา แต่คราวนี้ อันดับแรก มีแต่คำบอกเล่าตาม ๆ กันมาเท่านั้น โดยที่ไม่มีรูปถ่าย ไม่มีหลักฐานอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว..!
ประการที่สอง ตัวกระผม/อาตมภาพเอง สมัยเด็ก ๆ ผู้ใหญ่ก็จะบอกว่า ถ้าหากว่าเจอตะขาบตัวโตขนาด ๓ นิ้วมือเรียงกัน ซึ่งก็น่าจะลำตัวกว้างประมาณ ๒ นิ้วฟุต ถ้าหากว่าเจอตะขาบขนาดโต ๓ นิ้วมือเรียงกันขึ้นไป ให้เอากระทะกับตะหลิวมาตีเสียงดัง ๆ เหนือตัวตะขาบนั้น ตะขาบจะตกใจว่าฟ้าร้องแล้ว เป็น "ทัณฑ์สวรรค์" เป็นด่านเคราะห์ที่จะลงโทษตนเอง ในฐานะที่บำเพ็ญเพียรเซียนมาจนจะสำเร็จ ก็จะพ่นเอา "ไล่ตัง" ซึ่งคำนี้เป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว ต้องบอกว่าเป็น "เม็ดพลัง" ซึ่งรวมกันจนเป็นของแข็งแล้ว ออกมาเพื่อต่อต้านสายฟ้านั้น ไม่ให้ผ่าตนจนถึงแก่ความตาย..!
ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ถ้าหากว่าผู้ใหญ่ไม่เคยเจอตัวจริงมาก่อน ก็ไม่รู้ว่าจะสั่งลูกหลานอย่างกระผม/อาตมภาพไปทำอะไร แล้วสภาพป่าในช่วงที่กระผม/อาตมภาพเด็ก ๆ นั้น รอบข้างมีแต่ป่าดึกดงดำทั้งสิ้น
อย่างที่กระผม/อาตมภาพเคยเล่าให้หลายท่านฟังว่า มีงูใหญ่อาศัยอยู่ที่ถ้ำท้ายไร่ ก่อนที่โยมพ่อจะย้ายบ้านจากหนองเขมรออกมาอยู่ทางด้านกำแพงแสน ถามว่างูใหญ่ตัวขนาดไหน ? โยมพ่อบอกว่าปากถ้ำสูง "ครือ ๆ" กับหัวตัวเอง ซึ่งโยมพ่อของกระผม/อาตมภาพนั้น เป็นผู้ชายที่ตัวเล็กมาก ความสูงน่าจะอยู่ไม่เกิน ๑๕๕ เซนติเมตร ที่กระผม/อาตมภาพกับพระครูธรรมธรแสงชัยได้ความสูงใหญ่มานี้ ได้มาจากโยมแม่ซึ่งเป็นผู้หญิงที่สูงใหญ่มาก
โดยเฉพาะพี่วิเชียร ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วนั้น ชาวบ้านเขาเรียกกันว่า "ไอ้ขายาว" เพราะเป็นคนผอมสูงมาก สมัยนั้นถ้าหากว่าต้องการจะหาครอบครัวของกระผม/อาตมภาพ เข้าไปในหมู่บ้าน แล้วถามว่า "บ้านไอ้ขายาวอยู่ไหน ?" ทุกคนสามารถชี้บอกได้หมด นี่คือส่วนที่บอกว่าเป็นตำนานบอกเล่าต่อ ๆ กันมา ซึ่งกระผม/อาตมภาพเองนั้น ก็ไม่เคยเจอกับตะขาบใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย
แต่ถ้าเรามาดูตะขาบเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ถ้าหากว่าจัดกันตามแบบของ Zoology (สัตววิทยา) ก็จัดอยู่ใน ไฟลัม อาร์โทรโปดา (Phylum Arthropoda) คือ สัตว์ที่มีลำตัวเป็นปล้อง มีขาเป็นข้อ ๆ ซึ่งสัตว์ทั้งหลายเหล่านี้มักจะลอกคราบแล้วเติบโตไปเรื่อย คาดว่าถ้าหากว่าไม่โดนสัตว์อื่นฆ่ากินไปเสียก่อน ตามวงจรเวียนว่ายตายเกิด ก็มีสิทธิ์ที่จะตัวโตได้ขนาดนั้นจริง ๆ
ส่วนประการที่สองนั้น เมื่อกระผม/อาตมภาพมาศึกษาพระพุทธศาสนาแล้ว ก็ได้ทราบว่ามีอชคราทิเปรต ที่เป็นเปรตประเภทหนึ่ง อย่างที่หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านเล่าเอาไว้ใน อหิเปรตและกากเปรตว่า มีลำตัวยาวถึง ๒๕ โยชน์ ถ้าหากว่าเป็นเปรตในลักษณะอย่างนี้ แล้วมาตัวใหญ่มหึมา ประมาณ "รถไฟด่วน" อย่างในจินตนิยาย เรื่อง เพชรพระอุมา ที่ครูอี๊ด - พนมเทียน (นายฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ) ศิลปินแห่งชาติท่านได้เขียนเอาไว้ ก็น่าจะเป็นไปได้..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-03-2024 เมื่อ 02:35
|