ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 19-03-2024, 00:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,584 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้ถ้าภาวะสงครามเกิด ทุกอย่างจะลำบากไปหมด แม้ว่าในยุคนี้สมัยนี้จะไม่ลำบากมากเท่ากับสมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเด็กอยู่ แต่ก็น่าเป็นห่วง เพราะว่าบ้านเราซึ่งพื้นฐานเป็นประเทศกสิกรรม ก็คือเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ ปัจจุบันนี้ไม่ค่อยได้ทำการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตวแบบครอบครัว หากแต่ทำในลักษณะของการรับจ้างจากบริษัทใหญ่ ๆ ให้ทำ ผลผลิตทุกอย่างเป็นของบริษัทใหญ่เกือบทั้งหมด..!

แม้กระทั่งระยะหลังเรื่องของเมล็ดพันธุ์อะไรต่าง ๆ เขายังมีการจดลิขสิทธิ์ ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าในภาวะสงคราม สิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือปัจจัย ๔ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค

ดังนั้น..เรื่องของอาหาร ใคร ๆ ก็ต้องกิน จะเป็นเวลา "กอบโกย" เนื่องเพราะว่าถ้าเรามีอะไรก็ขายได้ทั้งหมด แต่กลายเป็นว่าระบบการผลิตในเรื่องของการกสิกรรมในปัจจุบันไม่เหมือนก่อนนี้ ก็เลยทำให้ถึงเวลาแล้วผู้ที่จะกอบโกยจริง ๆ กลายเป็นบริษัทใหญ่ ๆ ทั้งหมด..!

โดยเฉพาะคนไทยเราในปัจจุบันนี้ขี้เกียจเกินกว่าที่จะพูดได้ คือแม้กระทั่งจะปลูกพริก ปลูกมะเขือ ปลูกมะนาวเอาไว้สักต้นสองต้นก็ไม่มี อะไร ๆ ก็เดินเข้าร้านสะดวกซื้อ..!

ปัจจุบันนี้ท่านทั้งหลายก็จะได้ว่ากระทั่งกล้วยหอมก็แบ่งลูกขายกันแล้ว กระทั่งไข่ที่ซื้อไปต้มที่บ้านเองได้ ก็ยังอุตส่าห์ไปซื้อไข่ต้มจากร้านสะดวกซื้อ ยอมซื้อของแพงเพื่อความสบายส่วนตัว กระผม/อาตมภาพเคยถามคนขับแท็กซี่คันที่เรียกไปส่ง ตอนช่วงนั้นทางรถไฟสายสีม่วงกำลังจะสร้างเสร็จ ถามว่า "ถ้าทางรถไฟสายนี้เสร็จ พวกโยมได้รับผลกระทบมากไหม ?"

เขาบอกว่า "ถ้าเป็นแท็กซี่แทบไม่มีผลกระทบเลยครับ ประการแรก ถ้าคุณขึ้นรถไฟฟ้าสัก ๓ คน ราคาก็เท่ากับแท็กซี่แล้ว ประการที่สอง รถไฟฟ้าส่งคุณถึงประตูบ้านไม่ได้..!" แล้วแท็กซี่ก็สรุปว่า "คนไทยขี้เกียจครับ ถ้ารถอะไรส่งถึงประตูบ้านได้ก็จะใช้รถแบบนั้น รับประกันว่าพวกผมไม่กระทบหรอก..!"

แล้วก็เป็นเรื่องจริง แต่คราวนี้ที่กระผม/อาตมภาพพูดมานี้ คือภาวะสงคราม ซึ่งจะกระทบกับคนทั้งโลก ต่อให้ขี้เกียจขนาดไหนก็กระทบ ดังนั้น..ถึงเวลาข้าวของทุกอย่างก็จะแพง ไม่ต้องไปสนใจหรอกว่าทองคำจะแพงแค่ไหน ให้สนใจว่าจะหาของกินได้หรือไม่ ?

ในเมื่อการผลิตของเราไม่ได้อยู่ในมือของตนเอง เราก็พึ่งพาตนเองแบบเศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้ ยังโชคดีที่คนทองผาภูมิของเรายังอยู่ในลักษณะการพึ่งพาตนเอง ดูได้จากช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาดหนัก ๆ แทบจะไม่มีผลกระทบเลย ต่อให้เป็นผู้ที่เปิดร้านค้าขายอยู่ เขาก็มีไร่มีนาเป็นของตนเอง

แต่ว่าพี่น้องที่อื่นจะเป็นแบบคนทองผาภูมิหรือไม่ ? ส่วนนี้ก็ปรารภเพื่อฝากเป็นการบ้านเอาไว้ พูดมากไปเดี๋ยวก็จะโดนข้อหาทำให้ชาวบ้านเขาแตกตื่นอีก ตั้งใจจะพูดในเรื่องวัตถุมงคลของวัดท่าขนุนเท่านั้นเอง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2024 เมื่อ 02:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา