ขณะเดียวกัน เพื่อนกันก็คือพระครูวาทีวรวัฒน์, ดร. (กล้า วีรรตโน) รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งท่านก็ถือว่าเป็นลูกศิษย์ด้วย คือกระผม/อาตมภาพนี่แปลกอยู่อย่างหนึ่ง ไปเรียนหนังสือที่ไหนไม่นานหรอก เพื่อนกลายเป็นลูกศิษย์หมด เพราะว่าเวลาอาจารย์ไม่มา กระผม/อาตมภาพก็ไปบรรยายแทน..!
ท่านถามมาว่า "ลูกพี่..ขอความชัดเจนหน่อยครับ ในสังฆกรรม ถ้ามีผู้ต้องอาบัติสังฆาทิเสสอยู่ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยเฉพาะพระที่ร่วมสังฆกรรมมีความผิดหรือไม่ ? ประการที่สอง การอยู่ปริวาส เริ่มตั้งแต่วันที่ท่านสารภาพใช่ไหมครับ ? ประการที่สาม เรารู้แล้วไม่บอกต่อคนอื่น เพราะเกรงใจเพื่อน หรือกลัวเพื่อนจะอาย มีความผิดไหมครับ ?"
อันดับแรกเลย การต้องสังฆาทิเสสจัดอยู่ในครุกาบัติ คืออาบัติหนัก ขาดจากความเป็นพระชั่วคราว จนกว่าจะได้รับการลงโทษ ก็คืออยู่ปริวาสตามจำนวนที่ท่านปกปิดเอาไว้ บวกอีก ๖ วัน ๖ คืน เมื่อเก็บมานัตต์ครบถ้วนแล้ว จึงมารับการสวดอัพภานด้วยคณะสงฆ์ ๒๐ รูป ถึงสามารถคืนความเป็นพระได้อีกครั้งหนึ่ง
ถ้าปกปิดเอาไว้นานมาก ต้องคิดตามจำนวนที่ปกปิดไว้บวก ๖ วัน ๖ คืน อย่างเช่นว่าปิดไว้ ๓ เดือน ปิดไว้ ๑ ปี ก็อยู่ปริวาส ๓ เดือนบวก ๖ วัน ๖ คืน อยู่ปริวาส ๑ ปี บวก ๖ วัน ๖ คืน แต่ถ้าจำไม่ได้ว่าปกปิดไว้นานเท่าไร ท่านให้นับเท่าอายุบวช บวก ๖ วัน ๖ คืน..! ถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพก็ตายก่อน ไม่ทันได้คืนความบริสุทธิ์หรอก เพราะว่าคงจะไม่อยู่ต่ออีกเกือบ ๔๐ ปีแน่นอน..!
คราวนี้ในปัจจุบันมักจะอ้างสุทธันตปริวาส ว่าคณะสงฆ์กำหนดให้ ๙ วัน ๙ คืน เป็นอันว่าพ้นจากอาบัติ ใช้หัวแม่ตีนข้างไหนตรองดูก็ไม่ได้ทั้งนั้น..! สมมติว่าปกปิดมา ๑๐ ปี แล้วอยู่แค่ ๙ วัน ๙ คืน จบแล้ว ท่านคิดว่าใช่ไหม ? โดยที่พยายามเมินในสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า ให้กำหนดสุทธันตปริวาสมากกว่าเวลาที่ต้องอาบัติเสมอ เพื่อที่จะได้บริสุทธิ์จริง ๆ
ประการที่สอง สังฆกรรมนั้นเป็นอย่างไร ? ก็บรรลัยสิครับท่าน เพราะว่าสังฆกรรมต้องทำโดยสงฆ์ที่เป็นอุปสัมบัน ก็คือผู้มีศีลเสมอกัน บุคคลที่ต้องสังฆาทิเสส หรือปาราชิก เป็นอนุปสัมบันอยู่ภายในองค์การสงฆ์นั้น ก็เป็นอันว่าเหนื่อยฟรี ถ้าเป็นการอุปสมบท ผู้ที่บวชเป็นได้แค่เณร เนื่องเพราะว่าปริสวิบัติ คือจำนวนสงฆ์ในสังฆกรรมนั้น มีอนุปสัมบันปะปนอยู่ด้วย..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-03-2024 เมื่อ 02:57
|