ในงานพิธีครั้งนี้รวบรัด จัดได้รวดเร็วสมดั่งใจ กระผม/อาตมภาพนั่งอยู่ในท้ายแถวแรก ซึ่งทางด้านหัวแถวก็คือหลวงพ่อมนัส มนฺตชาโต ถัดมาเป็นหลวงพ่อโอ (พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร) ตามมาด้วยหลวงพ่อเจ้าคุณดำ หลวงพ่อชลอ แล้วเป็นกระผม/อาตมภาพ
อีกฝั่งหนึ่งได้ยินว่ามีตุ๊พ่อสิงห์ แล้วก็ท่านอาจารย์บ๊ะ (พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม) วัดโพธิ์ลังกาอยู่ด้วย ส่วนท่านเจ้าคุณหลวงตานั้น นั่งหันหลังให้กับพระประธานอยู่ตรงกลาง ท่านพระครูปลัดสุวัฒนรัตนคุณ หรือหลวงพ่อสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ เจ้าอาวาสวัดท่าซุงนั้น นั่งอยู่ตรงข้ามกับท่านเจ้าคุณหลวงตา
เพียงแต่ว่าในมณพลพิธีนั้น จะมีกลิ่นขี้ค้างคาวค่อนข้างจะแรงมาก เนื่องเพราะว่ามีค้างคาวเข้าไปอาศัยนอนพักอยู่ภายในถ้ำ ซึ่งถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพก็ทำพิธี "เชิญออก" ไปหลายปีแล้ว แต่เนื่องจากว่าไม่มีใครรู้เคล็ดลับว่าจะเชิญค้างคาวออกจากถ้ำอย่างไร ก็เลยทำให้จะต้องมีกลิ่นรบกวนอยู่เป็นปกติ ถือเสียว่าดมยาแก้เป็นลมก็แล้วกัน..!
ครั้นเสร็จพิธีแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ต้องรีบเดินทางกลับ เพราะว่ายังมีนัดอยู่กับญาติโยมอีกคณะหนึ่ง เหตุที่ต้องนัดก็เพราะว่าญาติโยมคณะนี้นั้นมีบุญคุณต่อกระผม/อาตมภาพมานานแล้ว และโดยเฉพาะลูกสาวลูกชายของท่าน ก็คือลูกสาวลูกชายของกระผม/อาตมภาพนั่นเอง ถ้าหากว่าเป็นญาติโยมปกติทั่วไป กระผม/อาตมภาพจะไม่รับนัดอย่างเด็ดขาด
ในส่วนของการที่มาร่วมพิธีในครั้งนี้นั้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับบรรดาพระเถระที่มีอายุกาลผ่านวัยสูง ๆ ส่วนใหญ่ก็ ๗๐ กว่าปี ๘๐ กว่าปี ก็คืออากาศที่ร้อนมาก ซึ่งถ้าหากว่าพลาดพลั้งอย่างไร ก็อาจจะเป็น "ลมแดด" หรือที่สมัยนี้เรียกกันเสียจนกระทั่งไม่รู้ศัพท์ภาษาไทยไปแล้วว่า "ฮีทสโตรก" ซึ่งโรคนี้จะว่าไปแล้ว เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก โดยเฉพาะถ้าเป็นผู้สูงอายุและความดันต่ำ เมื่อโดนความร้อนเข้า หลอดเลือดจะขยายตัว ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ อาจจะถึงขนาดล้มทั้งยืนได้..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2024 เมื่อ 00:46
|