ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 10-05-2024, 22:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,885 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพจึงต้องให้น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) วิ่งตรงไปยังวัดอุทยาน อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรีก่อน เนื่องเพราะว่าจุดนั้นห่างจากวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) แค่ ๒๐ กว่ากิโลเมตรเท่านั้น แล้วก็โทรศัพท์หาคุณนวลจันทร์ ซึ่งส่งคุณหนึ่ง (ณิชชารีย์) พนักงานในบริษัทมารับเอาทุเรียนไป จะมอบให้กินฟรีก็ไม่ยอม มีการจ่ายเงินมาตามราคาอีกด้วย แล้วกระผม/อาตมภาพจึงวิ่งไปร่วมพิธีปิดที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง)

ในระหว่างที่เดินทางมาจากกาญจนบุรี จนกระทั่งถึงนนทบุรี และนครปฐมนั้น กระผม/อาตมภาพก็เข้ารับการอบรมเพิ่มทักษะ (Upskills) การสอนวิชาปรัชญาเบื้องต้น ซึ่งบรรยายโดยพระเดชพระคุณพระธรรมวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ ป.ธ.๙) องค์อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยไปด้วย เนื่องเพราะว่าเป็นการอบรมผ่านระบบซูมมีตติ้งออนไลน์ ทำให้สามารถรับฟังและซักถามจากจุดไหนก็ได้ ขอให้มีคลื่นอินเตอร์เน็ตเท่านั้น

พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์ พระธรรมวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. ได้กล่าวว่า "ความจริงจะว่าไปแล้ว การเรียนในระดับปริญญาเอกสาขาโน้น สาขานี้นั้น ในสมัยก่อนใช้ชื่อเดียวกันหมด ก็คือเมื่อจบมาแล้วก็เป็น Doctor of Philosophy ก็คือเป็นคุณหมอทางปรัชญา ซึ่งคำว่า Doctor หรือหมอ ของภาษาอังกฤษในสมัยก่อน ก็มีความหมายเดียวกับของไทย อย่างเช่นว่า หัวหมอ หรือว่าหมอความ เหล่านี้เป็นต้น ก็แปลว่าคนที่เก่งสุดยอดในด้านนั้น โดยเฉพาะเมื่อเรียนไปถึงจุดนั้นแล้ว บุคคลที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง สามารถที่จะเชื่อมโยงกับทุกวิชาได้"

เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ กระผม/อาตมภาพก็ตระหนักถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทันที เนื่องเพราะว่าพระองค์ท่านทรงรอบรู้ทุกสิ่ง โดยเฉพาะทรงประกอบไปด้วยสมันตจักษุ (สัพพัญญุตญาณ) คือความรู้รอบ รู้ลึก รู้จริง ในทุกเรื่อง แม้แต่องค์พระปัจเจกพุทธเจ้าที่ตรัสรู้เช่นเดียวกัน ยังขาดสมันตจักขุตรงนี้ ทำให้ไม่สามารถที่จะรู้เห็นทุกประการได้ชัดเจน เหมือนกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา

ในสมัยก่อนบรรดาผู้ที่เรียนจบปริญญาเอกแล้ว จึงมักจะมีความรู้ความสามารถที่แท้จริง โดยเฉพาะตอนที่กระผม/อาตมภาพเรียนอยู่นั้น ท่านอาจารย์บอกว่า "คำว่า Doctor of Philosophy นั้น ก็คือผู้ที่เป็นแพทย์ หมายความว่าเมื่อท่านจบแล้ว ต้องใช้ความรู้ความสามารถในการรักษาเยียวยาสังคมของเราที่เจ็บป่วยอยู่ นำทางคนอื่นให้เดินไปในทางที่ถูกต้อง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2024 เมื่อ 23:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา