นิพพาน พระอริยบุคคล และพระพุทธเจ้า
๑.นิพพาน
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า ดูก่อนพระนาคเสน สิ่งที่เกิดแต่กรรม แต่เหตุ แต่ฤดู มีให้เห็นให้คิดเข้าใจได้
แต่สิ่งที่ไม่เกิดแต่กรรม แต่เหตุ แต่ฤดู อย่างหนึ่งอย่างใดมีบ้างหรือไม่
พระนาคเสนตอบว่า ขอถวายพระพร มี ได้แก่ อากาศ ๑ พระนิพพาน ๑
ม. กล่าวถึงอากาศ ข้าพเจ้าเห็นด้วย แต่พระนิพพานนั้น ไม่น่าเป็นอย่างพระคุณเจ้าว่า เพราะพุทธพจน์มีอยู่ชัดเจนว่า
พระนิพพานย่อมมีมรรคเป็นเหตุให้เกิด หรือมรรคเป็นเหตุกระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน หรือ พระคุณเจ้ากำลังกล่าวตู่พระพุทธพจน์ เมื่อไม่รู้ก็จงบอกว่าไม่รู้
น. ขอถวายพระพร พระพุทธพจน์มีอยู่เช่นนั้นจริง แต่หาได้หมายความว่า พระนิพพานเกิดแต่เหตุคือมรรคไม่
มรรคนั้นทำพระนิพพานให้แจ้ง แต่ไม่อาจแสดงเหตุที่อาศัยให้เกิดพระนิพพานได้ เพราะพระนิพพานเป็นอสังขตธรรม
ไม่มีเหตุ ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง รู้ไม่ได้ด้วยตา หู จมูก ลิ้น กาย จะพึงรู้พึงเห็นได้ก็เฉพาะแต่พระอรหันต์ผู้มีจิตบริสุทธิ์สงบและละเอียดเท่านั้น (นิพพานอัตถิภาวปัญหา)
ม. ธรรมดาสิ่งต่าง ๆ ย่อมมีที่ตั้ง เช่น นาเป็นที่ตั้งแห่งข้าวเปลือก ดอกไม้เป็นที่ตั้งแห่งกลิ่น
หากพระนิพพานไม่มีที่ตั้ง พระนิพพานก็เป็นอันไม่มี ผู้ที่พยายามกระทำพระนิพพานให้แจ้งก็ไร้ประโยชน์เปล่า
น. ขอถวายพระพร พระนิพพานมีอยู่จริง แต่ที่ตั้งแห่งพระนิพพานไม่มี อุปมาดังไฟที่ปกติไม่ปรากกฎที่ตั้ง
แต่เมื่อบุคคลเอาไม้มาสีกัน ไฟก็เกิดขึ้นได้ พระนิพพานก็เช่นเดียวกันคือไม่ปรากฏที่ตั้ง แต่เมื่อบุคคลพยายามบำเพ็ญศีล สมาธิ ปัญญา ให้แก่กล้าแล้ว พระนิพพานก็เกิดมีขึ้นได้เช่นไฟนั้น (นิพพานปัฏฐานปัญหา)
ม .พระคุณเจ้าว่านี้ชอบแล้ว
|