จากนั้นสมเด็จองค์ปฐม ทรงตรัสสอนเรื่องทรัพย์ภายนอก กับทรัพย์ภายในต่อ มีความสำคัญดังนี้
๑. เพียงเจ้ากระทบเรื่องราวทรัพย์ภายนอกเคลื่อนไป ยังทำความหวั่นไหวให้ทรัพย์ภายในเคลื่อนไปอีกด้วย จดจำอารมณ์สงบ ระงับกาย-วาจา-ใจ เมื่อตอนกลางวันเอาไว้ให้ดี ๆ พยายามเข้าถึงอารมณ์นี้ไว้ให้มาก ๆ (ก็รู้สึกเสียดายอารมณ์นั้น)
๒. อย่ามีจิตเสียดาย เพราะเป็นเพียงอารมณ์ตัวอย่างเท่านั้น มีให้เจ้าได้รับทราบอารมณ์แท้จริงของพระอนาคามีผล และให้เห็นตัวอย่างของปฏิปักษ์อารมณ์ ที่มาตัดตอนอารมณ์สุขสงบระงับนั้นด้วย กิเลสมันเข้าได้ทางทวารทั้ง ๖ ตัวอย่าง เย็นนี้คือเสียงที่กระทบหู จิตไม่รู้เท่าทัน ก็ไหวไปในอารมณ์ปฏิฆะ เป็นตัวลบล้างความดี ที่กำลังรักษาอยู่ให้เคลื่อนไป นี่ด้วยเหตุที่ไม่สำรวมอายตนะ
๓. หมั่นพิจารณาถึงกฎธรรมดาให้มาก ๆ เห็นทุกข์ เห็นโทษของอารมณ์กระทบ ค่อย ๆ พิจารณาให้ละเอียด จนกระทั่งจิตยอมรับทุกข์และโทษนั้น จิตจักยอมรับและปล่อยวาง อารมณ์กระทบนั้นลงได้ในที่สุด
๔. ความสงบระงับจักเกิดขึ้นได้อย่างถาวร เมื่อจิตได้รับการฝึกฝน ให้พ้นจากการกระทบของอารมณ์ อันเกิดจากอายตนะสัมผัสนั้น ๆ
๕. พิจารณาให้ดี ๆ ทบทวนธรรมที่กระทบนั้นไป ๆ มา ๆ แยกทุกข์ แยกโทษให้กระจ่าง เป็นการใคร่ครวญในธรรมอันเป็นที่ควรละเสียจากจิต หาสาระธรรมให้พบว่าควรยึดหรือควรละ เป็นสุขหรือเป็นทุกข์ เลือกเอานำมาเก็บเป็นอริยทรัพย์ได้หรือไม่ได้ ควบคุมอารมณ์จิตเอาไว้ให้ดี ๆ ธรรมกระทบยังมีให้พวกเจ้าได้ศึกษาอีกมากมาย
|