เมื่อหลวงตามาอยู่วัดเขาวงได้ ๑ ปี ก็ประสบอุบัติเหตุ เอารถไปขวางให้เขาชนกลางสี่แยกวัดใจ เจ้าซ้ง คนขับรถ มองแต่ทางซ้ายไม่เห็นมีรถ ก็ลืมขวา ออกรถเต็มที่รถปูนผง ๔ เต้าแล่นมาทางขวาพอดี สลบคาที่ ฟื้นขึ้นมาอีกทีก็ได้ของเพิ่มตัว คือ สายโยงเยง เสียบจมูก คาปาก คาท้อง และของประจำตัวที่หายไปก็มี ม้าม ถุงน้ำดี ตับบางส่วน และระบบหายใจอีกครึ่งระบบ
อยู่ห้อง ไอ.ซี.ยู. หลายวัน ออกมาพักฟื้นในห้องพิเศษ รพ.ภูมิพลได้ ๓ วัน หลวงพ่อสมเด็จก็เมตตามาเยี่ยมพร้อมกับพระอุปัฏฐากติดตาม ๑ องค์ เวลาบ่ายโมงพอดี
"จะมาเยี่ยมแต่เมื่อค่ำวานนี้ ออกรถมาได้แค่สี่แยกหลานหลวง รถติดอยู่กว่าชั่วโมง เห็นไม่ไหวก็เลยเดินกลับวัด นี่ออกมาบ่ายวันนี้ถึงมาได้ เออ..ไม่ได้หนักหนาอะไรอย่างที่เขาไปลือให้ฟังนะ ไม่เป็นไร...เดี๋ยวหายปรกติ ตั้งใจนะ ตั้งใจให้ดี จะสวดโพชฌงค์ให้หายเร็ว ๆ"
ลูกหลานเอ๋ย หลวงพ่อสมเด็จนั่งสวดมนต์บนเก้าอี้หน้าเตียงหลวงตาแก่ไร้ชื่อเสียง ไร้ความเคารพนบนอบประจบเอาใจ วันเกิดท่าน วันเข้าพรรษาก็ไม่ได้ไปกราบทำวัตร คนหยาบอย่างนี้ หลวงพ่อยังเมตตาถึงขนาดนี้ ที่หลวงตาว่าเหมือนแสงสว่างส่องโลกไม่เห็นแก่สิ่งตอบแทน มันจริงไหมเล่าลูกหลานเอ๋ย....
หลังจากนั้นหลายปี เมื่อพบท่านข้างพระอุโบสถวัดสระเกศ เข้าไปยืนไหว้ ขอประทานอภัยและขออนุญาต ย้อนหลังที่ได้เอาเรื่องของท่านไปเล่าให้พระใหม่ พระเก่าฟัง ตามที่หลวงตาซาบซึ้งใจ ท่านก็จับมือไว้ ยิ้มอย่างเดิม เสียงกลาง ๆ อย่างเดิม กระแสใจปนกระแสอบอุ่นใจอย่างเดิมว่า
"เอ้อ...ความเป็นพระก็อยู่ตรงนี้ ไม่มีอะไร.."
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 17-07-2009 เมื่อ 17:03
|