29-06-2010, 07:55
|
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
|
|
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,321 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
|
|
ชีวิตข้าราชการ
เมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ก็ต้องชดใช้ทุนที่ได้รับตอนศึกษาอยู่ จึงตัดสินใจไปสมัครเป็นข้าราชการครู ที่กรมพลศึกษาในปีพุทธศักราช ๒๕๑๕ ได้บรรจุเข้าเป็นข้าราชการครูตรี วิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ แต่ให้ไปช่วยราชการที่วิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดมหาสารคาม เป็นชีวิตใหม่
เป็นข้าราชการครูภูมิใจมาก แม่ก็ดีใจเป็นที่สุด พ่อซึ่งเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่พุทธศักราช ๒๕๑๐ ไม่ได้รู้ได้เห็น ชีวิตในช่วงนี้เริ่มเปลี่ยนแปลง ทำให้นึกคิดว่า “เราเกิดมาโคจรอยู่กับโลกนี้น้อยนิดในแต่ละชาติ ทำไมเราต้องเสียโอกาส ให้เวลาเป็นเหมือนมัจจุราชมาฉุดกระชากชีวิตเราไปอย่างเสียประโยชน์ พาเราไปจากโลกนี้จะไปอยู่ภูมิไหนโลกไหน หรือกลับมาสู่โลกนี้อีกหรือไม่ เราไม่มีคำตอบ แต่การกระทำบอกเราได้ ทำดีไปดี ทำชั่วไปที่ไม่ดีแน่”
การทำงานเป็นข้าราชการครูเป็นงานหนัก เพราะวิทยาลัยเปิดใหม่ปีแรกต้องทำทุกอย่าง ทั้งสอนทั้งพัฒนา แต่ก็ได้เงินพิเศษจากการสอนนักศึกษาภาคสมทบ ทั้งของวิทยาลัยครูและของวิทยาลัยเอง ได้เงินก้อนแรกยกให้แม่ ช่วยพี่สาวที่กำลังป่วยด้วยโรคมะเร็ง ที่กล่าวไว้เบื้องต้นว่าจะเสียชีวิตเมื่ออายุ ๓๕ ปี
ในการรับราชการนั้นได้ให้สัญญาไว้กับตนเองว่า จะซื่อสัตย์สุจริตทำงานเพื่อประเทศชาติ อยู่ในศีลธรรม เพราะเราเข้าใจในความทุกข์ยาก ความลำบากมานานแล้ว จึงอยากเห็นทุกคนสุขสบายด้วยอานิสงส์แห่งการทำกรรมดี ชีวิตพัฒนาไปเรื่อย ๆ เกินคาดคิด *อยู่วิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดมหาสารคาม ๔ ปี ได้พบสิ่งใหม่ ๆ มากมาย ทั้งดีและไม่ดี มีวุฒิภาวะมากขึ้น*
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-06-2010 เมื่อ 03:05
|