ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 30-06-2010, 19:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,960 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อถึงเวลาว่า พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอยึดพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอยึดพระธรรมเป็นที่พึ่ง สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอยึดพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง

เราก็จะยึดด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจจริง ๆ เมื่อมีความเคารพในพระรัตนตรัยเกิดจากใจจริง กติกาข้อแรกของความเป็นพระโสดาบันก็สมบูรณ์บริบูรณ์อยู่ในจิตในใจของเรา

ทีนี้ก็เหลือแต่ว่า เรามาทบทวนศีลทุกสิกขาบทของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำ และไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นกระทำการล่วงละเมิดศีล

หลังจากนั้นก็ให้กำหนดรู้ด้วยปัญญาว่า ตัวเราก็ดี บุคคลอื่นก็ดี สรรพสัตว์ทั้งหลายก็ดี ล้วนแล้วแต่ต้องตายทั้งสิ้น ล้วนแล้วแต่มีความตายเป็นธรรมดาทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าเราตายแล้วเราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว

ถ้ากำลังใจของท่านทั้งหลายหนักแน่นมั่นคงดังนี้ ก็จะเห็นว่าอานาปานสติในระดับเพียงปฐมฌาน บวกด้วยปัญญาเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เราเข้าถึงความเป็นพระโสดาบัน ปิดอบายภูมิ ๔ ได้อย่างสิ้นเชิง ถ้าหากยังต้องเกิดใหม่ก็วนเวียนอยู่ระหว่างเทวดาและมนุษย์เท่านั้น อย่างแย่ที่สุดก็ ๗ ชาติ อย่างกลางก็ ๓ ชาติ หรือถ้าทำได้ละเอียดก็ชาติเดียวเท่านั้น

เมื่อเป็นดังนี้แล้วก็ขอให้ทุกคนใช้การพยายามในการประคับประคอง รู้ลมหายใจพร้อมกับคำภาวนา หรือพร้อมกับภาพพระของเรา ทำให้กำลังใจในการภาวนาของเรา ทรงฌานได้ระดับใดระดับหนึ่งตั้งแต่ปฐมฌาน เพื่อที่จะได้เอามาประกอบปัญญาในการพิจารณา ก้าวล่วงจากกิเลสเข้าสู่ความเป็นพระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป

ขอให้เราทุกคนรู้ว่า ความยากลำบากในการปฏิบัติภาวนาของเรานั้น ยากเพราะเรายังไม่เอาจริง ลำบากเพราะเรายังไม่เอาจริง ไม่เกิดผลเพราะเรายังไม่เอาจริง ถ้าหากท่านทั้งหลายทุ่มเทอย่างจริงจังแล้ว คำว่ายาก คำว่าลำบาก คำว่าไม่เห็นผล จะไม่มีสำหรับเราเลย

ดังนั้น..หน้าที่ที่สำคัญที่สุดก็คือ การตามรู้ลมหายใจเข้าออก หรืออานาปานสติ พยายามสร้างสมาธิให้ทรงตัวให้ได้ ถ้าใครบอกว่าไม่มีเวลา ก็อยากจะบอกกับทุกท่านว่า ถ้าตราบใดที่เรายังหายใจอยู่ ตราบนั้นเราต้องมีเวลา เพราะเราแค่เอาความรู้สึกกำหนดรู้ตามลมหายใจไปเท่านั้นเอง เมื่อทำได้แล้ว ใช้ปัญญาประกอบเข้าเล็กน้อย ความเป็นพระอริยเจ้าก็อยู่แค่เอื้อมมือถึง

ลำดับต่อจากนี้ไปก็ขอให้ทุกท่านภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้ยินสัญญาณบอกหมดเวลา

พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันอาทิตย์ที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2010 เมื่อ 04:39
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา