ขอสรุปว่า ทานเป็นสิ่งที่เราทำได้ง่ายที่สุด เพราะใช้กำลังใจหรือบารมีเล็กน้อยก็ทำทานได้ ทานมีผลให้เราตัดความโลภจากใจของเรา (ละความชั่ว) ได้โดยตรง ศีลใช้กำลังใจสูงขึ้นกว่าทาน แต่หากเข้าใจหรือมีปัญญาก็สามารถทำได้ไม่ยาก โดยตั้งใจที่จะงดเว้นไม่กระทำความชั่วในขณะนั้น ในขณะที่พระท่านให้ศีล เราจะชั่วหรือไม่มีศีลมาก่อนในอดีต ก็เป็นเรื่องของอดีต แต่พระองค์ให้ตั้งใจไว้ในปัจจุบันกรรม ตั้งใจจะมีศีลครบ ๕ ข้อในปัจจุบัน ในขณะนั้นผลของบุญเกิดทันทีที่เราตั้งเจตนาที่ใจเรา เราเอาบุญกันเต็ม ๑๐๐% ในขณะนั้น ส่วนในอนาคตจงอย่าไปตามนึกถึง เพราะเหตุการณ์นั้นยังมาไม่ถึง เพียงแค่มีศีลบริสุทธิ์ชั่วขณะหนึ่งเพียง ๕ นาที ๑๐ นาที หรือ ๓๐ นาที ก็ต้องนับว่าเป็นบุญใหญ่แล้ว และอย่าลืมว่าบุญจากใจเราน้อมถึง พระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ อีกในขณะนั้น ก็เท่ากับบุญของพระโสดาบันหรือใกล้เคียง (ในชั่วขณะนั้น)
|