๒. จงกระทำแต่ความดี ข้อเท็จจริงในการปฏิบัติพระองค์ตรัสไว้ชัดเจนความว่า “ธรรมหรือกรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด (มีใจเป็นใหญ่) ทุกสิ่งสำเร็จได้ที่ใจ” ทุกอย่างอยู่ที่เจตนาของใจทั้งสิ้น หรือบุญ บาป ดี ชั่ว อยู่ที่ความคิดของเราเองทั้งสิ้น พระธรรมหรือธรรมะเป็นของเย็น เป็นของสงบ หากจิตไม่สงบ พระธรรมก็ไม่เกิดหรือไม่มีทางเห็นธรรม พระองค์จึงอบรมพวกเราให้มีสติ เพราะหากขาดสติ จิตใจก็ไม่สงบ สมาธิไม่เกิด ปัญญาก็ไม่มี
ดังนั้น สติ-สมาธิ-ปัญญา จึงแยกจากกันไม่ได้ ขาดตัวต้น ๒ ตัวท้ายก็ไม่มี คำสอนของพระองค์ทั้งหมด จึงเป็นอุบายให้เรามีสติก่อนทั้งสิ้น และเมื่อรวมคำสอนทั้ง ๘๔,๐๐๐ บทแล้ว พระองค์ก็ทรงย่อเหลือประโยคเดียว คือ “จงอย่าประมาท” หรือ “จงมีสติตลอดเวลา” นั่นเอง รายละเอียดจึงของดไว้ สรุปว่าข้อนี้ในทางปฏิบัติก็คือ
ก) ให้เรามีสติตลอดเวลา หรือมีสมาธินั่นเอง เพราะถ้าจิตดี จิตเป็นสมาธิอยู่ ความชั่วมันก็เกิดไม่ได้
ข) เมื่อเราละความชั่วของเราได้ ๑ ครั้ง เท่ากับเราทำความดี ๑ ครั้งเช่นกัน ถ้าละชั่วได้ ๑๐๐ ครั้ง ก็เท่ากับทำดี ๑๐๐ หนเช่นกัน
|