ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 17-07-2010, 00:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,991 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ข้อต่อไปก็คือ มีความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างจริงใจ เพราะเห็นคุณที่แท้จริงของพระรัตนตรัยแล้วว่าเป็นอย่างไร ?

คือ เห็นในพระบริสุทธิคุณ เห็นในพระปัญญาคุณ เห็นในพระกรุณาคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สู้อุตส่าห์ค้นคว้าหาธรรมด้วยความยากลำบาก เมื่อตรัสรู้แล้วยังตรากตรำพระวรกายถึง ๔๕ ปีเต็ม ๆ เพื่อที่จะสอนสั่งสัตว์โลกทั้งหลายให้พ้นจากความทุกข์

เห็นคุณของพระธรรมว่า รักษาผู้ปฏิบัติไม่ให้ตกไปในทางที่ชั่ว ให้ล่วงพ้นจากอบายภูมิ ให้ก้าวเข้าสู่ภพภูมิที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ท้ายสุดก็นำพาให้หลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพาน

เห็นคุณของพระสงฆ์สาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
เมื่อปฏิบัติในธรรมได้แล้ว ก็นำมาสั่งสอนต่อประชาชนทั้งหลาย สั่งสอนเราทั้งหลาย ให้ได้รับประโยชน์เช่นเดียวกับท่านทั้งหลายเหล่านั้น

ดังนั้น..ความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ของพระโสดาบันนั้น จึงเป็นการเคารพเพราะว่าเห็นคุณของพระรัตนตรัยจริง ๆ จึงไม่ล่วงล้ำก้ำเกินแม้ด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจก็ตาม

ข้อสุดท้ายนั้น พระโสดาบันมีความรู้ตัวอยู่เสมอว่าตนเองจะต้องตาย โดยเฉพาะอย่างที่เรากำลังจับลมหายใจเข้าออกอยู่อย่างนี้ ก็จะมีความรู้สึกว่า เมื่อหายใจเข้าถ้าไม่หายใจออกก็ตายแล้ว หายใจออกถ้าไม่หายใจเข้าก็ตายเช่นกัน ความตายมีอยู่กับตัวตนของเราในทุกลมหายใจ

ดังนั้น..บุคคลที่เป็นพระโสดาบัน เมื่อรู้ตัวอยู่เสมอว่าจะต้องตาย ก็เอาจิตสุดท้ายเกาะอยู่กับพระนิพพาน

เราจะเห็นได้ว่าในเรื่องของศีล เรื่องของสมาธิ เรื่องของปัญญานั้น จะต้องทำควบคู่กันไปทั้ง ๓ ประการ ก็คือ เมื่อรักษาศีลให้ทรงตัวแล้ว การปฏิบัติภาวนาในสมาธิก็จะทรงตัวได้ง่าย และมีปัญญาเห็นว่าตัวเราก็ดี บุคคลอื่นก็ดี จะต้องตายอย่างแน่นอน ถ้าตายแล้วขอไปพระนิพพานแห่งเดียว

ไม่ได้เน้นเฉพาะในเรื่องของสมาธิอย่างท่านที่ถามในตอนช่วงบ่าย เพราะสมาธิจะเสื่อมไปบ้าง จะสูญไปบ้าง เมื่อเราพูดคุยหรือทำการทำงาน เมื่อถึงเวลาก็กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกเสียใหม่ เพื่อช่วยสร้างให้สติสมาธิของเราเข้มแข็งยิ่งขึ้น เพื่อเป็นฐานที่จะรองรับปัญญาที่เกิดขึ้น จะได้รู้แจ้งเห็นจริงในสิ่งที่ควรละ ควรวาง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-07-2010 เมื่อ 02:28
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา