พระอาจารย์กล่าวว่า "จำเอาไว้ อำนาจเป็นยาเสพติดอย่างหนึ่ง บุคคลที่ขาดสติเสร็จทุกราย
การกิน การนอน การเสพกาม การเสวยอำนาจ พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้แล้วว่า ถ้าไม่ใช่บุคคลที่เห็นภัยในวัฏสงสาร ย่อมไม่มีวันเบื่อ ที่ยังไม่มีก็พยายามไขว่คว้ามาให้มี มีแล้วก็พยายามดิ้นรนรักษาไว้ ความจริงเป็นทุกข์ทั้งขึ้นทั้งล่อง แต่เขาไม่เห็น นับว่าเป็นทิฏฐิวิปลาส เห็นของที่ไม่ดีว่าดี
ถาม : สัญญาวิปลาส คืออะไร ?
ตอบ : สัญญาวิปลาส คือ จำผิด จำว่าของไม่ดีว่าเป็นของดี อย่างเช่นอสุภสัญญา สภาพร่างกายมีความไม่ดีไม่งาม เป็นปกติ แต่ไปหมายจำว่าเป็นสุภสัญญา คือ เห็นว่าร่างกายมีความดีความงาม
อัตตสัญญา สภาพร่างกายไม่ใช่ตัวตนที่ยึดถือมั่นหมายได้ แต่ไปจำว่าร่างกายเป็นตัวตนของเรา
นิจจสัญญา สภาพที่ไม่เที่ยงก็ไปจำว่าเที่ยง
สรุปแล้วสัญญาวิปลาส ก็คือ จำผิด แต่เราฟังดูแล้วน่ากลัว โดยเฉพาะจิตตวิปลาส คิดผิด คิดผิดแทนที่จะเป็นสัมมาทิฐิก็กลายเป็นมิจฉาทิฐิ เราฟังดูแล้วเหมือนจิตตวิปลาส คือ เป็นบ้า แต่จริง ๆ แล้วก็นับว่าบ้าเหมือนกัน เพียงแต่เป็นการบ้าในธรรม คนทั่ว ๆ ไปเขาเห็นว่าเป็นปกติ แต่บุคคลที่เข้าหาธรรมะจะเห็นว่าบ้า เพราะออกนอกลู่นอกทาง
ถาม : ทิฏฐิวิปลาสกับจิตตวิปลาสต่างกันอย่างไร?
ตอบ : ทิฏฐิวิปลาส จเห็นผิด แต่จิตตวิปลาส คิดผิด ทิฏฐิก็แปลตรง ๆ ว่าความเห็น มีการฟันธงแล้วและธงก็หักไปแล้ว แต่จิตตวิปลาสนี่ยังแค่คิดเท่านั้น
ถาม : น่ากลัว
ตอบ : น่ากลัวทุกตัวแหละ เพราะวิปลาสแปลว่าไม่ถูกต้อง บาลีเขาเขียนเป็น วิปัลลาส
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-01-2019 เมื่อ 20:30
|