การต่อสู้กับอารมณ์นิวรณ์ที่เข้ามาสิงใจ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๓๖ สมเด็จองค์ปฐม ทรงพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ ดังนี้
๑. “ฟังเรื่องราวของใครมากระทบหู ก็จง
หมั่นดูอารมณ์จิตของตนเองไว้ จับตาดูว่า ฟังแล้วอารมณ์อันใดเกิดขึ้นในขณะนั้น ๆ ที่เอาดีกันไม่ได้ก็คือ ไม่ค่อยจักรู้เท่าทันอารมณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปกติ โกรธจนชิน รักจนชิน ห่วงจนชิน กลัวจนชิน เลยไม่รู้ว่าอารมณ์อะไรเป็นอะไร อย่างนี้ทำกรรมฐานไปจนร่างกายตายแล้วตายอีกหลายตลบก็ไม่รู้เรื่อง”
๒.
"หรือบางขณะก็รู้อยู่ว่าอารมณ์ใดเกิด แต่จิตไม่คิดแก้ไข ปล่อยอารมณ์ให้ตกอยู่ในห้วงของนิวรณ์อยู่อย่างนั้น ก็ไม่มีประโยชน์เช่นกัน”
๓. “
การต่อสู้กับอารมณ์นิวรณ์ที่เข้ามาสิงใจ จักต้องมีความเพียรแก้ไขอารมณ์นั้น ๆ อย่างขันติ อดทน มีความตั้งใจจริง เหมือนจอมทัพที่เห็นข้าศึก ก็ตั้งใจเคลื่อนทัพเข้าประจัญรบราฆ่าฟัน เพื่อมุ่งหวังในชัยชนะทุกครา มิใช่ทำจิตเป็นผู้ไม่แกล้วกล้า เห็นข้าศึกมาก็ง่วงเหงา ซึมเซาอยู่แต่ในกระดอง ไม่กล้าคิดที่จักออกมาโรมรันศัตรู แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่จิตเจ้าจักรู้จักชนะนิวรณ์ได้เล่า”
๔.
“ตั้งอารมณ์ของจิตเสียใหม่นะ พยายามแข็งใจ เอากรรมฐานแก้จริตเข้าสู้ทุกครั้งที่อารมณ์ตกเป็นทาสของนิวรณ์”
๕.
“จงหมั่นกำหนดรู้อารมณ์ที่เป็นกิเลสอันเกิดขึ้นแก่จิต แม้สักนิดหนึ่งก็ต้องรีบแก้ไข อย่าปล่อยให้อารมณ์นั้นให้ลุกลามไปใหญ่โต ต้องอดทน ข่มใจ อดกลั้นต่อความชั่วของอารมณ์ของจิตตน”
๖. “จงตั้งใจทำความเพียร ละอารมณ์ที่เป็นกิเลสตั้งแต่เวลานี้ไป
หากเจ้ามีความท้อถอยคราวใด จงคิดอยู่เสมอว่า ร่างกายนี้กำลังจักตายอยู่ในวินาทีข้างหน้านี้ จักได้คลายความประมาทในธรรมลงได้”
(เวลาและความตายไม่คอยใคร)
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๖
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
www.tangnipparn.com