พระอุบาลีคุณูปมาจารย์
(จันทร์ สิริจันโท)
วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร ยศเส กรุงเทพมหานคร
ควรพวกเราทั้งหลายคิดดูให้เห็นโทษและคุณแห่งความตายเสียให้ชัดใจ
ผู้มีปัญญาไม่ควรประมาทความตาย
ให้เห็นว่าเป็นสมบัติสำหรับตัวเรา
เราจะต้องการในกาลอันสมควร
คือความตายมาถึงเราสมัยใด
สมัยนั้นแหละชื่อว่ากาลอันสมควร
ไม่ควรจะเกลียด ไม่ควรจะกลัว
สังขารทั้งหลาย คือสัตว์ที่เกิดมาในไตรภพ
จะหลีกหลบให้พ้นจากความตาย ไม่มีเลย
เมื่อมีความเกิดเป็นเบื้องต้นแล้ว ย่อมมีความตายเป็นเบื้องปลายทุกคน
นัยหนึ่งให้เอาความเกิดความตายซึ่งมีประจำอยู่ทุกวันเป็นเครื่องหมาย
เมื่อพิจารณาถึงความตาย ก็ต้องพิจารณาถึงความป่วยไข้
และความแก่ ความชรา เพราะเป็นเหตุ เป็นผลกัน
ให้พิจารณาถึงพยาธิความป่วยไข้ว่า
พยาธิ ธมฺโมมหิ พยาธิ อนตีโต
เรามีความป่วยไข้เป็นธรรมดา จะข้ามล่วงพ้นไปจากความป่วยไข้หาได้ไม่
ถ้าแลพิจารณาเห็นความชราอันเป็นปัจจุบันได้ก็ยิ่งประเสริฐ
ความระงับสังขารทั้งหลายนั้น ท่านมิได้หมายถึงความตาย
ท่านหมายถึงวิปัสสนาญาณ และอาสวักขยญาณ
คือปัญญารู้เท่าสังขาร รู้ความสิ้นไปแห่งอาสวะ
เป็นชื่อของ
พระนิพพาน
เป็นยอดแห่งความสุข