ดูแบบคำตอบเดียว
  #21  
เก่า 06-05-2009, 13:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงเมียประเภทต่าง ๆ ว่า

วธกาภริยา เมียเหมือนเพชฌฆาต
โจรีภริยา เมียเหมือนโจร ทรัพย์สินในบ้านนอกจากไม่ช่วยรักษา ยังยักยอกทรัพย์สารพัด

สขีภริยา เมียเหมือนเพื่อน คู่ทุกข์คู่ยากกอดคอกันไป
มาตาภริยา เมียเหมือนแม่ สารพัดจะเลี้ยงดูเอาอกเอาใจทุกอย่าง

ภคินีภริยา เมียเหมือนน้อง มันอ้อนตลอด ประเภทนี้ต้องคอยบ้องหู ไม่งั้นเดี๋ยวมันล้น
ทาสีภริยา เมียเหมือนทาส ประเภทจิกหัวใช้งานขนาดไหนไม่พูดสักคำ ทำงก ๆ ทั้งวัน

อัยยาภริยา เมียเหมือนเจ้านาย ถ้าผัวเป็นทาสี เมียต้องเป็นอัยยา แต่ถ้าเมียเป็นอัยยา ผัวต้องเป็นทาสี ตรงกันข้ามพอดี คนหนึ่งเป็นเจ้านายคนหนึ่งเป็นทาส

มีเรื่องตลกเรื่องหนึ่ง ผัวไปคุยกับเพื่อนว่า "โอย..เมียหรือ ผมไม่กลัวหรอก ตวาดคำเดียว เงียบไปเลย" ปรากฏว่าจู่ ๆ เมียเดินมา เพื่อนก็เลยถามต่อว่า "แกตวาดเมียว่ายังไงวะ ?" ผัวหันไปเห็นเมียเดินมา รีบบอกทันทีว่า "อ๋อ..เมียใช้ให้ไปซักผ้า กูตวาดคำเดียวว่าเอากะละมังมา..! เมียเงียบไปเลย" ผัวมันเอาตัวรอดเก่ง พวกนี้ปฏิภาณไว ถ้าฝึกกรรมฐานมีสิทธิ์ได้ปฏิสัมภิทาญาณ

เรื่องของสามีภรรยาพระพุทธเจ้าบอกว่า ต้องมีสมชีวิธรรม มีธรรมเสมอกัน คือ สมศรัทธา มีศรัทธาเสมอกัน สมสีลา มีศีลเสมอกัน สมจาคา มีทาน การให้เสมอกัน สมปัญญา ต้องมีปัญญาเสมอกัน ไม่เช่นนั้นอยู่กันยาก คนหนึ่งทำทาน คนหนึ่งไม่ยินดีด้วย ก็พัง

มีโยมคนหนึ่ง เขามาที่นี่แล้วบอกว่า "หลวงพ่อช่วยทีเถอะ จะมาหาพระหาเจ้าแต่ละที บอกเมียมันไม่ได้ ต้องโกหกมันว่าไปที่อื่น" อาตมาก็บอกว่า "อย่านึกว่าโกหกสิ นึกว่าพูดให้มันฟังอย่างนั้น พอนึกว่าพูดให้มันฟังอย่างนั้นแล้วก็ไปหาพระ"


__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 22-04-2015 เมื่อ 14:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา