ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 25-08-2010, 00:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,960 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐานวันอาทิตย์ที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๓

ขยับนั่งในท่าที่สบายของเรา ตั้งกายให้ตรง ดำรงสติเอาไว้เฉพาะหน้า กำหนดความรู้สึกทั้งหมดของเรา ให้ไหลตามลมหายใจเข้าไปพร้อมกับคำภาวนา ไหลตามลมหายใจออกมาพร้อมกับคำภาวนา เพื่อสร้างสมาธิของเราให้มั่นคง

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานประจำต้นเดือนของเราในวันสุดท้าย สองวันก่อนได้กล่าวถึงสังโยชน์ข้อที่ ๑ - ๕ มาแล้ว วันนี้ก็จะมาขอต่อให้ครบ ๑๐

แต่ก่อนที่จะครบ ๑๐ ก็ขอให้ทุกท่านทบทวนตนเองดูว่า สังโยชน์อย่างน้อย ๓ ข้อ ก็คือข้อที่ ๑ สักกายทิฐิ ความเห็นว่าร่างกายนี้เป็นเราเป็นตัวเรานั้น เรายังยึดถือแน่นแฟ้นอยู่ หรือว่าปล่อยวางได้บ้างแล้ว ? ข้อที่ ๒ วิจิกิจฉา คือ ความลังเลสงสัยในคุณพระรัตนตรัยก็ดี ความลังเลสงสัยในการปฏิบัติธรรมว่าจะเกิดผลจริงก็ดี มีอยู่ในจิตใจในเราหรือไม่ ?

ข้อที่ ๓ สีลัพพตปรามาส คือ การรักษาศีลแบบลูบ ๆ คลำ ๆ ไม่จริงจัง ปล่อยให้ศีลขาด ศีลด่าง ศีลทะลุ ยังมีอยู่กับเราหรือไม่ ? ถ้าหากว่ายังมีอยู่ก็ให้ตั้งใจเสียตั้งแต่บัดนี้ว่า เราจะตั้งหน้าปฏิบัติในการละสังโยชน์สามให้ได้

โดยเฉพาะในส่วนของการเคารพในคุณพระรัตนตรัย ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง และการทำความรู้สึกให้รู้อยู่เสมอว่า เราจะต้องตายแน่นอน ถ้าตายแล้วเราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว

ถ้าในสองส่วนนี้ เราตั้งใจ ตัดใจทำเสียให้เด็ดขาดตั้งแต่วันนี้ เราก็เหลือแค่การไปประคับประคองศีลให้บริสุทธิ์ตามสภาพของตน ก็คือ ฆราวาสทั่วไปก็รักษาศีล ๕ อุบาสกอุบาสิกาก็รักษาศีล ๘ สามเณรก็รักษาศีล ๑๐ พระภิกษุก็รักษาศีล ๒๒๗

ให้ทบทวนศีลไว้ทุกวัน ว่าเรามีศีลทุกสิกขาบทบริสุทธิ์บริบูรณ์หรือไม่ ? เราล่วงศีลด้วยตัวเองหรือเปล่า ? เรายุยงส่งเสริมให้คนอื่นล่วงศีลหรือเปล่า ? และเรายินดีเมื่อเห็นคนอื่นล่วงศีลบ้างหรือเปล่า ?

ถ้าหากเราไม่ได้ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้คนอื่นกระทำ และไม่ยินดีเมื่อเห็นคนอื่นกระทำ ก็แสดงว่ากำลังใจของเรานั้น มีสิทธิ์ที่จะก้าวเข้าสู่ความเป็นพระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2010 เมื่อ 02:08
สมาชิก 56 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา