ถอยหลังจากเหตุการณ์ที่แรกเกริ่นไว้ไปกว่า ๑๐ ปี กัลยาณมิตรของผมได้มีโอกาสรู้จักหลวงปู่จากพระอาจารย์หลวงพ่อสมาน แห่งวัดหินโป้งเป้ง จ.หนองคาย (ซึ่งปัจจุบันคือพระเดชพระคุณพระนิเทศศาสนคุณ องค์ประธานคณะธรรมทูตฝ่ายธรรมยุตประจำประเทศสหรัฐอเมริกา) ขณะนั้นหลวงปู่อาพาธหนักติดต่อกันมาหลายปี มีโรคต่าง ๆ รุมเร้า เช่น วัณโรคกระดูก เกาต์ ความดัน หัวใจ แพ้ยา ฯลฯ หูดับสนิท(จากอาการแพ้ยาขณะนั้น) ลุกเดินไม่ได้ ต้องค่อย ๆ ถัดไปกับพื้นเพื่อขับถ่าย ตาเกือบมองไม่เห็น ผิวหนังเป็นแผลพุพอง ขามีอาการบวมอย่างรุนแรงจนไม่สามารถจะล้มตัวลงนอนได้ ต้องทนอยู่ในท่ากึ่งนอนกึ่งนั่งตลอดเวลา อาหารแข็งก็ฉันไม่ได้ ฉันได้แต่เฉพาะที่เป็นน้ำเป็นของเหลวครั้งละเล็กละน้อยเท่านั้น พระอาจารย์สมานได้บอกกับเพื่อนของผม ผู้เป็นศิษย์ว่า ทุกขเวทนาของธาตุขันธ์ที่ต่อเนื่องมาหลายปีนี้เกินกว่ามนุษย์ธรรมดาจะทานทน การที่หลวงปู่ยังทรงขันธ์อยู่ได้ ก็น่าจะเป็นเพราะหลวงปู่สามารถเข้านิโรธสมาบัติได้ พร้อมกับได้ฝากฝังให้เพื่อนท่านของผมนี้ดูแลหลวงปู่ด้วย มิฉะนั้นอีกไม่นานหลวงปู่อาจจำเป็นต้องดับขันธ์ลง ซึ่งเพื่อนท่านผู้นี้ก็มีศรัทธาแรงกล้า ได้นำหลวงปู่มาเข้าโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ ปรนนิบัติรักษาหลวงปู่ด้วยความเคารพอย่างสุดกำลัง กระทั่งหลวงปู่หายป่วย
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย คนเก่า : 09-09-2010 เมื่อ 16:37
|