๕. “อย่าลืม เจ้าไม่ใช่บุคคลประเภทอุคคติตัญญู จักใจร้อนให้บรรลุมรรคผลเร็วมิได้ แม้อุคคติตัญญูการบรรลุมรรคผลก็มิใช่ได้เพราะความใจร้อน อาศัยบารมีธรรมที่บำเพ็ญมาเต็มแล้วแต่กาลก่อน จึงบรรลุได้เร็วตามนั้น”
๖. “
พวกเจ้าเป็นวิปจิตัญญู ก็พึงจักต้องศึกษาและปฏิบัติไปตามคำสั่งสอนก่อน อีกทั้งมีการเวียนว่ายตายเกิดมานานนับอสงไขยกัปไม่ถ้วนเยี่ยงนี้ จู่ ๆ จักให้เคาะกิเลสหลุดไปได้อย่างฉับพลันนั้น ย่อมเป็นการยาก เพราะฉะนั้น
จักต้องใจเย็น ๆ แต่มิใช่เย็นแบบมีความประมาทในชีวิต จักต้องคิดถึงความตาย ควบกับความเพียรในความใจเย็นอยู่เสมอ อุปสมานุสติ กายคตานุสติ ควบอสุภกรรมฐานตั้งมั่น ควบคู่กับอานาปานุสติไว้เสมอ กันความไม่ประมาทในชีวิต จิตสงบยอมรับความเป็นจริงในกฎของกรรมหรืออริยสัจ แล้วก็ปฏิบัติไปตามแนวคำสั่งสอนโดยไม่ย่อท้อ สักวันหนึ่งข้างหน้า ก็ย่อมจักถึงจุดหมายปลายทางได้”
๗. “อนึ่ง การคิดถึงหนทางระงับอารมณ์ปฏิฆะ โดยเอาจิตตนเองเป็นเครื่องวัดว่า ถ้าใครด่าเรา นินทาเรา เราไม่ชอบใจแน่ เมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็ไม่ควรด่าใคร นินทาใคร เราไม่ชอบให้ใครมาแสดงอารมณ์โกรธ เราก็ไม่ควรที่จักแสดงอารมณ์โกรธเขา นั่นเป็นการคิดตามคำสั่งสอนของตถาคต ที่ท่านฤๅษีนำมากล่าวในพรหมวิหาร ๔ กรณีนี้เป็นการคิดที่ถูกต้อง เจ้าควรจักคิดทบทวนอยู่เสมอ ๆ ซ้ำ ๆ จิตจักยอมรับตามความเป็นจริง
เห็นโทษของอารมณ์โกรธ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จักยึดถืออารมณ์โกรธ เพราะจักเป็นเหยื่อของอบายภูมิได้โดยง่าย”
๘. “จุดนี้ ขอให้คิดถึงท่านฤๅษีสอนในเทป โทษละเมิดพระธรรมวินัยที่กบิลภิกษุ เมื่อขึ้นจากอเวจีมหานรก มาเกิดเป็นปลาเกล็ดสีทอง ต้องตายลงเพราะอารมณ์ปฏิฆะและโทสะ น้อยใจในกฎของกรรม มีความคับแค้นใจในกรรมที่ตนทำมาในอดีต จึงเอาศีรษะฟาดเรือตายไปอเวจีมหานรกก็ด้วยอารมณ์นี้
พวกเจ้าก็จักสามารถศึกษาโทษแห่งอารมณ์โทสะ ราคะได้จากพระสูตรต่าง ๆ เพราะล้วนแล้วแต่มีตัวอย่างให้ดูมาแล้วทั้งสิ้น ถ้าหากเข้าใจถึงโทษแห่งอารมณ์นั้น ๆ จิตก็จักคลายจากการเกาะติดอารมณ์นั้น ๆ ลงได้ เสมือนหนึ่งบุคคลผู้ดื่มยาพิษมานาน พอรู้จริงว่านี่คือยาพิษ อันทำให้เราตายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เขาก็จักไม่ยอมหลงดื่มยาพิษนั้นอีกต่อไป ข้อนี้อุปมาฉันใด จิตของผู้รู้จริงก็จักเป็นฉันนั้น ขอให้ใช้ปัญญาศึกษากันให้ดี ๆ
จักปล่อยวางอารมณ์ที่เสมือนหนึ่งยาพิษที่ฆ่าตัวให้ตายได้”
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๖
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
www.tangnipparn.com