อาตมาเริ่มต้นปฏิบัติใหม่ ๆ สมัยเพิ่งจะเรียนมัธยม ไม่เคยสงสัยปัญหาเหล่านี้เลย คิดจะทำก็ลุยเลย ไม่เคยไปถามใคร ถ้ามัวแต่ถามอยู่ เกิดไม่มีคนให้ถาม แล้วจะทำอย่างไร ?
นึกถึงเณรของหลวงปู่ดูลย์ หลวงปู่ดูลย์ท่านสอนเณรให้ถักขาบาตร เณรก็ซน ดูบ้างเล่นบ้าง ถึงเวลาหลวงปู่ก็โยนตอกให้ถัก เณรจำวิธีทำได้นิดหน่อย ทำแล้วไปต่อไม่ได้ ก็เลยถาม "หลวงปู่..ทำอย่างไรต่อครับ ?" เงียบ... "หลวงปู่ตรงนี้ทำอย่างไรครับ ?" เงียบ...
พอตอนเย็น หลวงปู่บอกกับเณรว่า "พรุ่งนี้บิณฑบาตด้วยกัน" รุ่งขึ้นเณรออกบิณฑบาตตามหลวงปู่ ออกบิณฑบาตแต่เช้า จึงมีบ้านที่เขายังทำกับข้าวไม่เสร็จ ลูกสาวตะโกนถามแม่ว่า "แม่ ๆ แกงส้มใส่กะปิหรือเปล่า ?" แม่ก็เงียบ
"แม่แกงส้มใส่กะปิหรือเปล่า ?" แม่เลยตะโกนตอบไปว่า "โคตรแม่มึง..ถ้ากูตายห่าแล้วมึงจะถามใคร..!" พอแม่ด่าเสร็จหลวงปู่หันมายิ้มกับเณร ยิ้มในความหมายว่า "ถ้าปู่ตายแล้วเณรจะถามใคร ?"
ต้องอย่างนั้นจึงจะเรียกว่ารู้จริง รู้ขนาดว่าจะไปเอาคำตอบให้เณรจากไหน ฉะนั้น..ไม่ต้องเสียเวลาถาม ไปลงมือทำได้เลย
ถาม : มีผลไหมครับ ?
ตอบ : ถ้ายังมัวแต่ถามอยู่แบบนี้ ชาตินี้ก็ไม่มีผล..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2019 เมื่อ 02:11
|