หลวงตาท่านให้เราชั่งน้ำหนักดูว่า ระหว่างมรรคผลของตัวเอง กับในเรื่องของการปรนนิบัติครูบาอาจารย์ ควรจะเลือกเรื่องไหน ?
ตอนนั้นอาตมาหูอื้อตาลาย เหมือนกับฟังไม่เข้าหู จึงยังคงลาไปปรนนิบัติหลวงปู่ต่อไป และโดนเข้าจริง ๆ มติกรรมการสงฆ์สรุปว่าผิดระเบียบ ต้องให้ออกจากวัด ผิดระเบียบเพราะลาเกินที่กำหนดไว้ รวมแล้วมากกว่า ๔๕ วัน ต่อให้ลาได้ ๑๕ วันก็ยังเกินไปมาก
จากนั้นเขาก็แจ้งผลการประชุมและมติที่ประชุมให้แก่หลวงพ่อ พูดง่าย ๆ ว่าขออนุญาตเชือด..! หลวงพ่อตอบหนังสือลงมาว่า "การไปปรนนิบัติดูแลครูอาจารย์ถือว่าเป็นเรื่องสมควร เป็นการที่ทำไปโดยกตัญญู ให้ปรับโทษโดยตัดวันลาเหลือเพียง ๗ วัน" เพราะฉะนั้น..อาตมาจะเป็นพระรูปเดียวในวัด ที่ลาได้ไม่เกิน ๗ วัน..!
เรื่องที่เล่ามานี้ ถ้าเป็นพวกเรา เมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ ก็จะขึ้นอยู่กับกำลังใจของเราเอง ถ้าเราเห็นแก่ตัวเองมากกว่า เราก็จะทิ้งหลวงปู่ แล้วก็ปฏิบัติตามระเบียบวัด
แต่ตัวอาตมาเองนั้น มีสันดานอยู่อย่างหนึ่งว่า เป็นคนที่เกิดที่ไหนก็ไม่ได้หวังว่าโตที่นั่น พร้อมที่จะไปที่อื่นได้ตลอดเวลา แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ ไปไกลบ้านได้มากเท่าไรก็มีความสุขเท่านั้น ก็เลยไม่ได้เกรงว่าจะโดนไล่ออกเพราะผิดระเบียบวัด
อาจจะเป็นผลพวงที่ปฏิบัติตามหลวงพ่อท่านมาหลายชาติ ในเมื่อหลวงพ่อตั้งความปรารถนาที่จะตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เพื่อสงเคราะห์สรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ แม้เราไม่ได้ตั้งความปรารถนา แต่อธิษฐานตามกันมา จึงรับเอาจริยานี้ไปโดยปริยาย
ทำให้เห็นความสุขของคนอื่น เป็นเรื่องสำคัญมากกว่าความสุขส่วนตัว และเชื่อว่าลูกศิษย์สายหลวงพ่อร้อยละ ๙๙ ก็มีความรู้สึกแบบนี้ทั้งนั้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-10-2010 เมื่อ 01:54
|