"ถ้ากล่าวถึงประเทศไทย โชคดีที่สถาบันพระมหากษัตริย์ของเรา ตั้งแต่มีประวัติศาสตร์ที่ชัดเจน ก็คือสมัยสุโขทัยเป็นต้นมา พระมหากษัตริย์ของเราต่างเป็นพุทธมามกะมาโดยตลอด จนกระทั่งสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระมหากษัตริย์เสด็จออกบวชเองเลย และได้สร้างพระพุทธรูปใหญ่สามองค์ ก็คือ พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา ไว้ให้ประชาชนทั่วไปได้กราบไหว้บูชา
ทำให้กษัตริย์ยุคหลัง ๆ มา ถือเป็นแบบอย่าง ถึงเวลาก็เวนราชสมบัติให้ผู้อื่นดูแล แล้วเสด็จออกบวชชั่วคราว กลายเป็นธรรมเนียมประเพณี พอถึงสมัยอยุธยาช่วงกลาง รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ใครที่เข้ารับราชการ ถ้าไม่บวชจะไม่ให้รับราชการ ต้องเป็นผู้เคยบวชมาก่อนเท่านั้น
ดังนั้น..ถ้าผู้นำประเทศนับถือศาสนาไหน ศาสนานั้นก็จะเจริญรุ่งเรือง โชคดีที่พระมหากษัตริย์ของเรานับถือศาสนาพุทธมาโดยตลอด ที่น่าเกรงกลัวที่สุด ก็คือ สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพราะทางพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ ขอให้พระองค์นับถือศาสนาคริสต์ การขัดใจมหาอำนาจสมัยนั้น มีแต่จะนำสงครามและความเดือดร้อนมาสู่ประเทศชาติ แล้วทำไมพระองค์ท่านจึงไม่นับถือศาสนาคริสต์ ?
สมเด็จพระนารายณ์มหาราชตรัสว่า "ถ้าหากพระเจ้ามีพระประสงค์จะให้พระองค์เป็นคริสตศาสนิกชน ก็คงจะทรงดลบันดาลให้พระองค์ถือคริสต์ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ในเมื่อพระเจ้าทรงดลบันดาลให้ถือศาสนาพุทธ ก็ถือว่าเป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ที่จะให้พระองค์นับถือศาสนาพุทธ" ทำเอาอีกฝ่ายเถียงไม่ออก เพราะฝรั่งเขาจะอ้างความประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้ากันทั้งนั้น"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2010 เมื่อ 03:22
|