ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 14-01-2011, 00:26
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,490 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default การเอาจิตเกาะพระนิพพาน เป็นการตัดกิเลสที่ง่ายที่สุด

ถาม : ไปนั่งสมาธิอยู่หน้าพระพุทธองค์เจ้าค่ะ พอจิตอยู่ในสภาพนี้ กายของตัวเองเริ่มเปลี่ยนเป็นกายที่ใส ๆ แล้วเปลี่ยนเป็นองค์พระเจ้าค่ะ แล้วสักพักก็มีแสงเป็นสีรุ้งรอบ ๆ ก็เลยสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นไม่เข้าใจ ?
ตอบ : ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น อย่าลืมว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ที่ไหนนอกจากพระนิพพาน การที่เราส่งกำลังใจขึ้นพระนิพพาน เป็นการตัดกิเลสโดยอัตโนมัติและง่ายที่สุด

เพราะว่าตัว รัก โลภ โกรธ หลง ต่าง ๆ เป็นสมบัติของร่างกาย ถ้าไม่มีใจซึ่งเป็นตัวคอยปรุงแต่งเพิ่มเติมไป คอยที่จะกระตุ้นเร้าอยู่ กิเลสพวกนี้ก็ต้องดับลงไปเองตามธรรมชาติอยู่แล้ว เพราะเป็นของที่ไม่ยั่งยืน อยู่นานไม่ได้

หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านสอนมโนมยิทธิให้พวกเรารู้จักพระนิพพาน ไปพระนิพพานได้ เพราะเป็นการตัดกิเลสที่ง่ายที่สุด ไม่มีวิธีไหนง่ายกว่านี้อีกแล้ว

หลวงพ่อท่านเคยเล่าให้ฟังว่า มีระยะหนึ่งมีพระสำเร็จอรหันต์ ๗ องค์พร้อม ๆ กัน ปรากฏว่าท่านมาศึกษามโนมยิทธิไปจากวัดท่าซุง แล้วท่านก็ตั้งหน้าตั้งตาเอาใจเกาะพระบนนิพพานอย่างเดียว พอถามท่านว่า "เป็นพระอรหันต์ได้อย่างไร ?" ท่านบอก "ก็ไม่รู้..อยู่ ๆ ก็เป็นเอง"

ลักษณะอย่างนี้เพราะ การที่เราเอาจิตเกาะนิพพาน สภาพจิตจะแจ่มใส กิเลสกินเราไม่ได้ พอนานไปความเคยชินเกิดขึ้น จิตใจผ่องใสมากขึ้นเรื่อย ๆ กิเลสก็จะหมดไปเองโดยอัตโนมัติ

จุดนี้คือที่จุดสำคัญที่สุดของโนมยิทธิ ที่หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านต้องการให้พวกเราทำ ท่านไม่ได้ให้เราเอาไปฟื้นความสัมพันธ์กับคนอื่น ท่านสอนให้เราละ แต่ส่วนใหญ่จะเอาไปยึด รีบ ๆ ทำเข้า ตอนนี้มาตรงทางแล้ว วิธีนี้แหละ ทำบ่อย ๆ เข้าอีกไม่นาน คงจะได้เผากันแน่..!

ถาม : ....พอทำถึงตรงนี้มีความรู้สึกว่าตอนนี้เรามีชีวิตอยู่เพื่อหน้าที่ ๆ เราจะต้องทำ ทำตามหน้าที่ ๆ ควรจะทำ แล้วก็ไม่มีความหวังที่จะอยากได้อะไร หรือเป็นอะไร ดูว่าง ๆ ไม่เข้าใจว่า...?

ตอบ : ...(หัวเราะ)... เข้าใจ..ไม่ต้องอธิบาย ตอนนี้ถ้าหากว่ารักษาอารมณ์ใจนั้นได้ เราก็จะอยู่เหนือบุญเหนือบาป รู้ว่าอันนี้ดีก็ทำ รู้ว่าอันนี้ชั่วก็ละ จิตไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว ไม่กลัวตาย ไม่อยากตาย แต่พร้อมที่จะตายได้ทุกเวลา ถ้าหากว่างานของตัวเองหมด ก็จะไปทันทีเลย

ถาม : แบบนี้หรือเจ้าคะ ?
ตอบ : จ้ะ....เพราะฉะนั้น..รีบหางานให้เยอะ ๆ เข้าไว้ ...(หัวเราะ)... กำลังใจของคนที่ทำถึงจุดนี้ ถ้ากำลังใจตั้งตรงจุดจริง ๆ ไม่มีใครเขาอยากอยู่กันหรอก

ถาม : แล้วจิตเราสบายดีนะเจ้าคะ ?
ตอบ : วะ..! ไม่สบายใครเขาจะทำกันเล่า

ถาม : ...ทำต่อหรือเจ้าคะ ?
ตอบ : ทำต่อไป ถึงตอนนี้เราจะเข้าใจชัดเจนว่า จริง ๆ แล้วพระนิพพานไม่เห็นต้องยึดต้องเกาะอะไร เพราะว่าเต็มอยู่ในใจของเราเอง ตายเมื่อไรเรารู้ว่าเราไปพระนิพพานแน่ พูดให้คนอื่นฟังมามากแล้ว เขาคลำตรงนี้ไม่ค่อยถูกกัน ...

แรก ๆ ก็ต้องอาศัยเกาะก่อน เหมือนเกาะราวบันไดเดินขึ้นบันไดมา เราเกาะเพื่อความมั่นคง แต่พอถึงห้องข้างบนแล้ว เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแบกราวบันไดไปด้วย เพราะเราถึงแล้วนี่...

ดังนั้น..เมื่อถึงตอนนี้ อารมณ์พระนิพพานจะเต็มอยู่ในใจของเราเอง ในเมื่อเต็มอยู่ในใจของเราเอง เราก็จะเกิดความมั่นใจขึ้นมาว่า ตายตอนนี้เราก็นิพพานตอนนี้ ไม่เห็นจะต้องไปยึดไปเกาะอะไรอีกแล้ว

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-09-2020 เมื่อ 02:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 139 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา