ถาม : การนั่งสมาธิ ต้องเกิดปีติทุกคนไหมครับ ?
ตอบ : เกิด เพียงแต่จะเกิดเป็นปีติตัวไหน
ถาม : ในห้าอย่างหรือครับ ?
ตอบ : ในห้าอย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง
ถาม : แล้วคนที่ไม่เคยเจอเล่าครับ ?
ตอบ : ไม่เคยเจอเลยมีสองประการด้วยกัน ประการแรก ในอดีตเคยทรงฌานมาแล้ว คล่องตัวมาก จะข้ามตัวปีติไปเป็นฌานเลย ประการที่สอง มาสายสาวกภูมิที่หัวอ่อนสุด ๆ บอกอะไรเชื่ออย่างเดียว อย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเจอปีติก็ได้
ถาม : หัวอ่อนสุด ๆ ?
ตอบ : ประเภทว่าอะไรเชื่ออย่างเดียว บอกให้ทำก็ทำ ไม่มีการโต้แย้ง ไม่มีความสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้น
ถาม : ถ้าเกิดนั่งภาวนาพุทโธ หรือ นะมะพะธะ แล้วไม่ได้กำหนดภาพพระ ?
ตอบ : อย่างน้อยก็ต้องกำหนดลมหายใจเข้าออก ถ้าไม่กำหนดลมหายใจเข้าออกก็ไม่มีผล ภาวนาไปก็เหนื่อยเปล่า
ถาม : ทำแค่กำหนดลมหายใจและคำภาวนาละครับ ?
ตอบ : เกินพอแล้ว ขอให้ทำจริง ๆ เท่านั้นแหละ ถ้าทำจริงเดี๋ยวผลก็เกิดเอง
ถาม : ผลที่เกิดมีอะไรบ้างครับ ?
ตอบ : อันดับแรก ทรงฌานได้ รัก โลภ โกรธ หลง ก็โดนกดดับชั่วคราว อันดับที่สอง ใช้กำลังฌานในการพิจารณาตัดกิเลส อันดับที่สาม ถ้าทรงฌานสี่ละเอียดได้ ถึงเวลาต้องการจะตายเมื่อไรก็ไปได้เมื่อนั้น
น่าสนใจนะ ถ้าทรงฌานสี่คล่องตัวได้ จะตายเมื่อไรก็ตายได้ ท่านทั้งหลายจึงสามารถที่จะบอกได้ว่าจะตายตอนไหน เพราะถ้าเราเข้าฌานสี่ไปแล้ว สภาพร่างกายเราเหมือนกับหยุดทำงานหมด แม้กระทั่งลมหายใจก็ไม่มี พอเราออกจากฌานสี่ แล้วเราไม่หายใจใหม่ก็จบแล้ว ท่านไปกันตอนนั้นแหละ..!
พระพุทธเจ้าเวลาเข้าฌานก่อนที่จะดับขันธปรินิพพาน พระองค์ท่านเข้าฌาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ หลังจากนั้นก็ถอยลงมา ๘ ๗ ๖ ๕ ๔ ๓ ๒ ๑ แล้วเข้า ๑ ๒ ๓ ๔ จากนั้นก็ปรินิพพานตอนนั้น นั่นคือเข้าฌานสี่เป็นฌานสุดท้าย พอคลายออกก็ไปเลย..เลิกหายใจ..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2011 เมื่อ 03:19
|