"แปลกใจไหม...ทำไมถึงอยู่วัดต่อไม่ได้ ? ก็เพราะในเมื่อเขายกคุณขึ้นไปสู่ในจุดที่สูงแล้ว ไม่มีสิ่งใดที่จะต้องให้ไขว่คว้าแข่งขันกับใครแล้ว ถ้าเราปล่อยให้ตัวเองอยู่ในจุดนั้นเมื่อไร จะกลายเป็นน้ำนิ่ง นาน ๆ เข้าก็จะกลายเป็นน้ำเน่า หาความก้าวหน้าไม่ได้
อาตมาจึงได้ทิ้งวัดท่าซุงออกมาข้างนอก มาเริ่มต้นจากศูนย์ใหม่ เพื่อจะได้ฝึกฝนลับตัวเองให้แหลมคมขึ้น ไม่ใช่ทื่ออยู่แค่นั้นเพราะคนอื่นเขายกให้เป็นใหญ่เสียแล้ว
ดังนั้น..พวกเราทุกคนควรจะพิจารณาตัวเองด้วยว่า ปัจจุบันนี้เรายินดีกับสภาพปัจจุบันนี้ของเราเอง จนไม่ไขว่คว้าหาความก้าวหน้าใส่ตัวเพิ่มขึ้นหรือเปล่า ? หรือเรายังมีการดิ้นรนแสวงหาความก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ต้องเกิดจากจิตสำนึกของตนเองล้วน ๆ ไม่สามารถที่จะบอกกล่าวกันได้ เพราะถ้าไม่เกิดจากจิตสำนึกของตนเองแล้ว ถึงบอกไปก็ไม่มีความรู้สึกที่คิดอยากจะทำ หรืออยากจะปฏิบัติตาม
มีใครบ้างที่หน้าที่การงานกำลังรุ่งสุด ๆ แล้วกล้าลาออกมาทำงานใหม่ที่เราไม่คุ้นเคยเลย อาตมาทำอย่างนี้มาเกือบตลอดชีวิต ทำงานอยู่ที่โรงงานไทย-ญี่ปุ่นเมตัลอุตสาหกรรม อยู่ ๗ เดือน จากพนักงานทั่วไปเลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้าแผนก อาตมาก็ลาออกมาหางานใหม่ทำ เพราะถ้าใหญ่กว่านั้นก็จะกลายเป็นผู้จัดการโรงงานไปแล้ว จะไม่เหลืออะไรไว้ท้าทายเราอีกแล้ว
พอไปเรียนวิชาทหาร ก็ก้าวหน้าจนได้สองขั้นทุกปี จนกระทั่งผู้บังคับบัญชาต้องกางระเบียบการ บอกว่าเขาให้เลื่อนสองขั้นได้แค่สามปีติดกัน แล้วต้องเว้น หมายความว่าปีที่สี่เราต้องเว้น ปีที่ห้าจึงจะได้สองขั้นต่อไป จนเพื่อนฝูงตามไม่ทัน ก็ลาออกมาบวชเอาดื้อ ๆ "
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2011 เมื่อ 13:05
|