พระอาจารย์กล่าวว่า "พระที่เป็นเนื้อเมฆสิทธิ์กับเนื้อเมฆพัตรจะปลอมได้ยาก เพราะยิ่งนานไป สีจะยิ่งจางลงไปเรื่อย เป็นการจางลงเองโดยธรรมชาติ เมฆพัตรจากที่เราเห็นค่อนข้างดำ ก็จะจางลงเป็นสีน้ำเงิน จนสีอ่อนเป็นสีน้ำเงินอมขาว ถ้าเป็นเมฆสิทธิ์จะจางลงเป็นสีเขียวแบบสีปีกแมลงทับ จนกระทั่งเป็นสีเขียวอ่อนอมเหลือง จะจางลงไปเรื่อย ๆ ตามอายุของวัตถุมงคลที่นานขึ้น
เพราะฉะนั้น..ใครที่ทำปลอมขึ้นมา ต่อให้เหมือนขนาดไหน ก็จะดูออกว่าไม่ใช่ของเก่า เพราะเนื้อจะเป็นของใหม่ ก็ดีอยู่อย่างว่าเป็นของที่กันการปลอมได้ แต่เมฆสิทธิ์กับเมฆพัตรจะมีส่วนผสมของสังกะสีค่อนข้างมาก จะทำให้เนื้อพระกรอบ ถ้าเผลอทำตกหล่นใส่ของแข็งอย่างปูนซีเมนต์ เนื้อจะบิ่นหรือแตก
เนื้อเมฆพัตรจะผสมเงินมากกว่า ถ้าเป็นเมฆสิทธิ์จะผสมทองมากกว่า เมฆสิทธิ์สีจะออกเหลือบทอง เมฆพัตรสีจะออกเหลือบเงิน เดี๋ยวนี้สูตรโบราณเขาไม่ค่อยรู้กัน
อยากรู้ว่าบรรพบุรุษของเราเก่งแค่ไหน ให้ไปดูที่หน้ากระทรวงกลาโหม ปืนใหญ่โบราณตากแดดตากฝนมาเป็นร้อยปี จนป่านนี้ยังไม่มีผุเลย สนิมไม่ขึ้นอีกต่างหาก สเตนเลสยังไม่ได้ขนาดนี้เลย ไปตากแดดตากฝนแบบนั้น ถึงเป็นสเตนเลสก็สนิมขึ้นแน่นอน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-01-2011 เมื่อ 03:25
|