ถาม : ผมนอนแล้วพอตื่นเช้ามา แล้วเห็นตัวเองเป็นโครงกระดูก แล้วจะต้องพิจารณาอย่างไร ?
ตอบ : ก็แค่เห็นว่า ธรรมดาของมนุษย์ทุกรูปทุกนามเป็นอย่างนี้ แสดงว่า ในอดีตเราอาจจะเคยฝึกอสุภกรรมฐานเกี่ยวกับอัฐิกอสุภะมาก่อน ถึงเวลาพอสภาพจิตที่พักผ่อนเพียงพอ ไปลงช่องของอุปจารสมาธิพอดี ก็จะเห็นภาพเก่า ๆ ที่ตัวเองเคยทำได้
เราก็นึกถึงภาพนั้นว่า ท้ายสุดเราเองก็ต้องมีสภาพเป็นอย่างนี้ ขึ้นชื่อว่าการมีสภาพร่างกายเป็นแบบนี้ เรายังต้องการอีกไหม ? ถ้าไม่ต้องการแล้ว เราควรจะไปไหน ? ถ้าหากเราไม่ต้องการ ก็ควรจะไปนิพพาน แล้วตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา ของเราเพื่อเป็นหนทางไปสู่พระนิพพาน
ให้นึกถึงภาพนั้นไว้บ่อย ๆ ว่าเราต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน จะได้ไม่ประมาท คิดอยู่อย่างนั้นเสมอว่า ตายแล้วก็เป็นอย่างนี้ ตัวเราก็เป็นอย่างนี้ คนอื่นก็เป็นอย่างนี้
ถาม : เหมือนกับให้ทรงภาพนี้ ?
ตอบ : นึกไว้เรื่อย ๆ อะไรที่เป็นของเก่าจะนึกง่าย พอหายไปก็นึกใหม่ นึกว่าสภาพร่างกายของเราเป็นอย่างนี้ ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอนสักอย่าง คนอื่นก็เป็นอย่างนี้ อยากได้ใคร่ดีไปก็ไม่มีประโยชน์ ท้ายสุดก็ตัดเข้านิพพานไปดีกว่า
มีของเก่าก็ได้เปรียบ จะทำอะไรง่ายกว่าคนอื่น เพราะลัดขั้นตอนได้ เหมือนกับคนมีเงินในกระเป๋า ถึงเวลาก็ล้วงมาใช้ได้เลย คนอื่นทำงานเหนื่อยเกือบตายกว่าจะได้เงินเดือนมาใช้อย่างเรา
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-01-2011 เมื่อ 12:56
|