ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 25-01-2011, 10:23
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,887 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default ถ้าอยากพ้นทุกข์ ก็จงหมั่นปริปุจฉา

ถ้าอยากพ้นทุกข์ ก็จงหมั่นปริปุจฉา


สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ ดังนี้

๑. “อุเทศ แปลว่าเรื่อง ปริ แปลว่ารวมหรืออุปสรรค ปุจฉา แปลว่าคำถาม เหมือนกับที่คุณหมอเคยพูดว่า ให้ลองถามตนเองดูสิว่า
  • ก) กินอาหารทำไม ตอบ เพราะความหิวเป็นทุกข์
  • ข) กินเพื่ออะไร ตอบ เพื่อบรรเทาทุกข์ กันตาย
  • ค) กินแล้วเป็นอย่างไร ตอบ อิ่ม แต่อิ่มชั่วคราวหรือพ้นทุกข์ชั่วคราว เพราะความอิ่มไม่เที่ยง เหตุเพราะโลกไม่เที่ยง, ขันธโลกก็ไม่เที่ยง

๒. “หากเข้าใจหลัก ก็ถามตนเองไปเรื่อย ๆ ปัญญาเกิดจากการพิจารณา จากอายตนะสัมผัสทั้ง ๖ (นอก ๖ และใน ๖) กระทบกัน”

๓. “ผู้ฉลาดจึงมองทุกสิ่งในโลกเป็นธรรมได้หมด พิจารณาเป็นได้ทั้งสมถะและวิปัสสนา

๔. “อารมณ์ใดเกิดขึ้นกับจิต จงหมั่นสอบจิตคือ ตั้งคำถามแก่จิต ให้ค้นคว้าหาคำตอบว่า อารมณ์นั้นเป็นคุณหรือเป็นโทษ เป็นธรรมในศีล สมาธิ ปัญญา หรือธรรมในโลกธรรม หากพวกเจ้าเข้าใจปริปุจฉาจริงและทำให้ได้ตามนั้น ก็จักได้ประโยชน์มหาศาลจากหลักของธรรมปฏิบัตินี้ และจักสามารถแยกแยะสาระทางธรรมออกมาได้จากสาระทางโลก

๕. “สาระทางธรรมคือ แก่นสารอันสามารถนำจิตของตนให้พ้นจากความทุกข์ได้ สาระทางโลกคือ ความไม่เที่ยงทั้งมวล ประโยชน์ทางโลกที่แท้จริงไม่มี (เพราะมันไม่เที่ยง) ยึดถืออันใดมาเป็นแก่นสารไม่ได้ แต่นั่นแหละจักพ้นโลกได้ ก็จักต้องพิจารณาโลกให้เห็นตามความเป็นจริง จึงจักเข้าถึงธรรมได้”

๖. “โลกที่อยู่กับตัวเรา (เรา คือ จิต) คือ ขันธโลกนี่แหละ (คือ ร่างกายหรือขันธ์ ๕) โลกภายในนี้ถ้าหากศึกษาได้ถ่องแท้แล้ว จักเข้าใจโลกภายนอกได้เฉกเช่นเดียวกัน”

ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา