"ความรู้พวกนี้ศึกษาเอาไว้หน่อยก็ดีจ้ะ พอไม่มีใครบอก ไม่มีใครกล่าว ก็จะหลงลืมไปเรื่อย ๆ พอท้ายสุดก็จะไม่รู้อะไรเลย โบราณเขาบอกว่า รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม คือ รู้เอาไว้ก็ไม่ได้แบก ไม่หนักอะไรหรอก เรียนเอาไว้สักนิดหนึ่งก็ดี
จำหลักง่าย ๆ ว่า เดือนที่เป็นเลขคี่ คือ เดือนอ้าย เดือน ๓ เดือน ๕ เดือน ๗ เดือน ๙ เดือน ๑๑ ถ้าไม่ใช่ปีที่เป็นอธิกวาร คือ ปีที่มีวันเพิ่มขึ้นมา จะมีแค่แรม ๑๔ ค่ำเท่านั้น
ถ้าเป็นเดือนคู่ คือ เดือนยี่ เดือน ๔ เดือน ๖ เดือน ๘ เดือน ๑๐ เดือน ๑๒ ถึงจะมีแรม ๑๕ ค่ำ ข้างแรมที่หายไปวันหนึ่งนั้น พอรวมกันประมาณสามปี ก็จะกลายเป็นปีที่เป็นอธิกมาส คือ มีเดือนเพิ่มขึ้นมาเดือนหนึ่ง คือ มีเดือนแปดสองหน
แต่ถ้าไปเจอปีพิเศษที่เป็นอธิกวาร จะมีแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ โผล่มาวันหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องคำนวณกันจนตาเหล่ อย่างปีก่อนอาตมาคำนวณฤกษ์พรหมประสิทธิ์ผิดไปครึ่งปีเลย เพราะอยู่ ๆ มีวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ โผล่ขึ้นมา เป็นปีที่มีอธิกวารก็คือมีวันเพิ่ม ถ้าอธิกมาสคือเดือนเพิ่ม ถ้าปกติมาส ปกติวารก็คือทั่ว ๆ ไป
เราจะดูว่าเป็นปกติมาสหรืออธิกมาส ก็ดูจากเดือนกุมภาพันธ์ ถ้าเดือนกุมภาพันธ์มี ๒๘ วันก็เป็นปกติมาส แต่ถ้าเดือนกุมภาพันธ์มี ๒๙ วันจะเป็นอธิกมาส คนจีนก็มีเหมือนกัน แต่คนจีนเขาไม่นับเดือนแปดสองหนอย่างเรา คนจีนเขาจะนับเดือนสามสองหน
ในเรื่องปฏิทิน ถ้าไม่ได้ยึดปฏิทินร้อยปีเป็นหลัก แล้วคำนวณเอง บางทีโหรสมัยใหม่ก็ไม่รอบคอบ ยังโชคดีทีโหรบางท่านขยัน คำนวณปฏิทินร้อยปีออกมา แต่อาตมาก็เจอที่ผิดเหมือนกัน ดูไปดูมา ปฏิทินของห้องโหรศรีมหาโพธิ์แม่นที่สุด พยายามจะจับผิดแล้ว แต่บางทีเขาผิดแค่สลับผิดขึ้นแรม แต่วันเวลายังตรงอยู่ คนพิมพ์คงพิมพ์เพลินไป พวกกี่ค่ำยังถูกต้องอยู่"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-01-2011 เมื่อ 16:08
|