ถาม : โยมเรียนปริญญาเอก จะทำงานวิจัยร่วมกับทางต่างประเทศ อยากจะถามว่า ถ้าจะฝึกเด็กให้มีจิตสัมผัสที่ละเอียดขึ้น ภายในสองวัน หัวใจของการฝึกควรจะเริ่มต้นอย่างไรคะ ?
ตอบ : ควรจะเอาสมาธิเป็นหลัก ระหว่างที่ฝึกสมาธิอยู่ ก็ต้องให้ศีลเขาทรงตัวด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือ ตอนที่เขาทำสมาธิ เขาไม่ได้ละเมิดศีลอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าให้มั่นใจว่าศีลของเราช่วงนั้นบริสุทธิ์
คราวนี้การที่จะฝึกให้ได้ผลจริง ๆ นั้น เป็นเรื่องที่ยากมาก ถ้าเราดูในมหากัมมวิภังคสูตร พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า โยคีบุคคลผู้ตั้งใจปฏิบัติในอานาปานสตินับแสนคน จะทรงฌานได้สักคนก็แสนยาก บุคคลผู้ทรงฌานสักแสนคน จะได้ทิพจักขุญาณสักหนึ่งคนก็แสนยาก
คราวนี้สัมผัสต่าง ๆ ที่เราต้องการให้รับรู้ในสิ่งที่ละเอียด ที่นอกเหนือจากอายตนะสัมผัสทั้ง ๕ จะต้องเป็นส่วนของทิพจักขุญาณ กลายเป็นว่าระยะเวลาสองวันที่เราว่ามา ถ้าคนไม่มีพื้นฐาน สองชาติยังไม่ได้ไปไหนเลย..! สิ่งที่เราทำ ถ้าจะมีผลขึ้นมาได้ก็เกิดจากบุคคลที่มีของเก่ามาแล้วเท่านั้น
ถาม : แล้ววิธีการตรวจสอบว่า เด็ก ๆ ที่มีของเก่ามาแล้ว ควรตรวจสอบอย่างไรคะ ?
ตอบ : ไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้โดยวิธีการปกติ เพราะว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ต้องเป็นบุคคลที่มีทิพจักขุญาณด้วยกัน เขาจึงสามารถบอกได้ แต่ขณะเดียวกัน โอกาสที่จะผิดพลาดก็ยังมีอยู่ มีโอกาสผิดพลาดอยู่ที่ ๒๐ เปอร์เซ็นต์
เอาเป็นว่า ถ้าเด็กคนนั้นมีความปรารถนาหรือความชอบที่จะทำในเรื่องอย่างนี้ ให้คาดไว้ก่อนว่าเขามีของเก่ามาก่อน ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ชอบเรื่องอย่างนี้ ถ้าทำเป็นรูปธรรมได้ ถือว่าสุดยอดมาก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-02-2011 เมื่อ 03:53
|